ปัจจุบันประเทศไทยมีสัดส่วนของผู้สูงอายุร้อยละ 17.9 และมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การที่จะมีอายุยืนยาวและคุณภาพชีวิตที่ดี จำเป็นต้องส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพดีและพึ่งพาตนเองได้ การส่งเสริมกิจกรรมทางกาย เช่น ออกกำลังสำหรับผู้สูงอายุจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สมาชิกในครอบครัวควรใส่ใจอย่างยิ่งค่ะ
นายแพทย์สกานต์ บุนนาค รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ ได้ให้คำแนะนำที่น่าสนใจว่า ผู้สูงอายุควรเพิ่มกิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวัน และลดพฤติกรรม เช่น นั่งๆ นอนๆ ดูทีวี หรือเล่น social media เป็นเวลาทีละนานๆ เป็นต้น โดยรูปแบบกิจกรรมทางกายที่ผู้สูงอายุสามารถปฏิบัติได้ ดังนี้
- กิจวัตรประจำวันที่ทำด้วยตนเองที่บ้านหรือในยามว่าง ได้แก่ งานบ้าน กวาดถูบ้าน รดน้ำต้นไม้
- กิจกรรมการเดินทาง ได้แก่ การเดินไปจ่ายตลาด การเดินไปทำงาน ปั่นจักรยาน
- กิจกรรมสันทนาการหรืองานอดิเรก เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดทางร่างกาย ส่งเสริมสุขภาพจิตใจและสมอง เช่น การร้องเพลง เต้นรำ วาดภาพ ถ่ายรูป ปลูกต้นไม้
- การออกกำลังกายง่ายๆ เช่น ลีลาศ รำไทเก๊ก รำไม้พลอง
สำหรับผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวที่อาจได้รับอันตรายจากการออกกำลังกาย เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคปอด โรคข้อเข่าเสื่อม ควรได้รับคำแนะนำหรืออยู่ในการดูแลของแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด
การออกกำลังกายควรเริ่มด้วยการยืดเหยียด warm up เพื่อให้ร่างกายเตรียมพร้อมและปรับตัวได้ทัน การออกกำลังต้องไม่หนักเกินไป โดยอาจสังเกตอาการที่บ่งบอกว่าออกกำลังกายหนักเกินไป เช่น เวียนศีรษะ ใจสั่น จุกเสียดแน่นหน้าอก และก่อนหยุดออกกำลังควรมีการ warm down
การออกกำลังกายเป็นประจำจะส่งผลดีต่อร่างกายหลายระบบ เช่น หัวใจหลอดเลือด ฝึกการทรงตัวเพิ่มความแข็งของกล้ามเนื้อทำให้ลดความเสี่ยงการหกล้ม ลดการสูญเสียมวลกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรงลดโอกาสกระดูกหัก กระตุ้นการทำงานของลำไส้ลดอาการท้องอืดท้องผูก และยังทำให้สดชื่นลดการเกิดภาวะซึมเศร้าอีกด้วย
อยากให้ผู้อาวุโสที่น่ารักของบ้านอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกหลานในบ้านไปนานๆ สมาชิกในครอบครัวก็ต้องค่อยดูแลและใส่ใจท่านทั้งด้านร่างกายและจิตใจนะคะ