โรคทางจิตเวชเป็นโรคเรื้อรังและเป็นโรคทางสมองอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ผู้ป่วยควบคุมตนเองได้ไม่ดี ฉะนั้นนอกจากการไปพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอแล้ว ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข ลดความเสี่ยงที่จะทำให้อาการกำเริบ คือการดูแลด้วยเข้าใจอย่างถูกวิธีจากครอบครัวหรือคนรอบข้าง
สำหรับผู้ป่วยจิตเวช ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 600,000 คนทั่วประเทศ ผู้ป่วยส่วนใหญ่กว่า 2 ใน 3 กินยาควบคุมอาการอย่างต่อเนื่อง อาการดีขึ้นแล้วและอยู่กับครอบครัว คนในครอบครัวจึงต้องช่วยกันสอดส่องดูแลผู้ป่วยให้ปฏิบัติตามที่แพทย์กำหนด โดยข้อมูลจาก น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า…
4 เรื่องที่ญาติและครอบครัวไม่ควรละเลย
ป้องกัน “ผู้ป่วยจิตเวช” อาการกำเริบ
- ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- ห้ามเสพสารเสพติด เนื่องจากทั้งฤทธิ์ของแอลกอฮอล์และสารเสพติดจะไปกระตุ้นสมองผู้ป่วยโดยตรง มีผลต้านกับฤทธิ์ของยาที่แพทย์ใช้รักษาควบคุมอาการ ทำให้อาการกำเริบได้ง่าย ไม่สามารถควบคุมตนเองยับยั้งชั่งใจได้
- ห้ามอดนอน
- ห้ามขาดยา ซึ่งปัญหาขาดยานั้นพบได้บ่อย ผู้ป่วยมักจะเข้าใจผิดว่าหลังกินยาแล้วอาการดีขึ้น คิดว่าตัวเองหายแล้ว จึงไม่กินยาต่อ
ด้าน นพ.กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชนครพนมราชนครินทร์ จ.นครพนม กล่าวว่า
ญาติควรดูแลให้ผู้ป่วยจิตเวชนอนหลับให้เพียงพอวันละ 6-8 ชั่วโมง อย่าให้อดนอนอย่างเด็ดขาด เนื่องจากจะทำให้สารเคมีสื่อประสาทในสมองเสียสมดุล และเป็นตัวก่อความเครียด กระตุ้นให้อาการกำเริบได้
สัญญาณเตือนของอาการกำเริบของผู้ป่วยจิตเวชที่สำคัญมี 6 อาการ ได้แก่ นอนไม่หลับ หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย มีความคิดแปลกๆ พฤติกรรมก้าวร้าว หวาดระแวง หากพบผู้ป่วยมีอาการปรากฏอย่างใดอย่างหนึ่ง ขอให้ญาติรีบพาส่งโรงพยาบาลใกล้บ้านทันที ไม่ต้องรอดูอาการให้เนิ่นนาน หรือ โทร.ปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323
ทั้งนี้ ควรหากิจกรรมให้ผู้ป่วยจิตเวชทำร่วมกับสมาชิกในครอบครัว เช่น ร้องเพลง หรือไปเที่ยวด้วยกันได้ เพื่อให้รู้สึกว่าไม่โดดเดี่ยว รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า สร้างความเพลิดเพลิน มีความสุข และไม่เครียดค่ะ