ช่วง เม.ย. ของทุกปี ประเทศไทยเข้าสู่สภาวะฤดูร้อน แถมยิ่งนานวันก็ยิ่งทวีความร้อนมากขึ้นทุกปี ฉะนั้น นอกจากจะต้องดูแลและปกป้องร่างกายจากอากาศที่ร้อนจัดแล้ว อีกสิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจคือ อาหารการกิน เพราะการเลือกอาหารให้เหมาะสมกับสภาพอากาศจะช่วยบรรเทาความร้อนให้ทุกคนในครอบครัวได้ค่ะ
นพ.สุเทพ วัชรปิยานันทน์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ให้ข้อมูลว่า…
ในช่วงหน้าร้อนที่อากาศร้อนจัด ความสมดุลของธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ ในร่างกายบกพร่อง มักพบว่า คนธาตุไฟและธาตุน้ำ มีความเสี่ยงเสียสมดุลร่างกายมากกว่าธาตุอื่น เกิดความเจ็บป่วยได้ง่าย ถ้าจะดับร้อน ก็ต้องรับประทานอาหารที่มีรสขม รสจืด และรสเย็น นำผักผลไม้สมุนไพรมาปรุงเป็นอาหารหรือเครื่องดื่ม
ในแต่ละวันควรรับประทานให้ครบ 5 หมู่ โดยเน้นผักและผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็นเป็นหลัก ส่วนเมนูคลายร้อนที่แนะนำ ได้แก่ มะระทรงเครื่อง มะระมีสรรพคุณเป็นยาดับร้อนถอนพิษไข้แก้กระหาย บรรเทาอาการร้อนใน แก้อักเสบ เจ็บคอ
แกงเลียงกุ้ง ประกอบด้วยผักที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ใบตำลึง ใบแมงลัก บวบ น้ำเต้า เห็ดฟาง กระชาย แกงเลียงกุ้งร้อนๆ สามารถขับเหงื่อช่วยให้ร่างกายเบาสบาย
ส่วนอาหารประเภทแกงจืด เช่น แกงจืดฟักเขียว แกงจืดตำลึง แกงจืดมะระยัดไส้ แกงขี้เหล็ก ก็เหมาะกับอากาศในช่วงหน้าร้อน
สำหรับเมนูของหวาน ได้แก่ เฉาก๊วย ที่มีน้ำเชื่อมใสๆ ใส่น้ำแข็งกินตอนอากาศร้อนๆ แก้กระหาย รักษาอาการปวดหัว เจริญอาหาร เป็นยาระบาย ช่วยย่อย สละลอยแก้ว แช่เย็นๆ ทำให้ชุ่มคอแก้กระหายน้ำได้ดี และลดอาการเจ็บคอ เครื่องดื่มสมุนไพร ได้แก่ น้ำย่านาง ใบย่านางมีฤทธิ์เย็น จึงใช้ใบย่านางปรับสมดุล น้ำบัวบก แก้ร้อนในกระหายน้ำ ลดอาการปวดศีรษะข้างเดียว บำรุงสมอง บำรุงหัวใจ
น้ำกระเจี๊ยบ สรรพคุณช่วยรักษาอาการร้อนในภายในช่องปาก ลดความดันโลหิต น้ำตรีผลา เป็นยาปรับธาตุในหน้าร้อน มีสรรพคุณช่วยรักษาความสมดุลธาตุทั้ง 4 ของร่างกาย น้ำใบเตย ช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยลดอาการกระหายน้ำ ทำให้ชุ่มชื่น น้ำมะนาว ช่วยย่อยอาหาร ป้องกันท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้ไอ ขับเสมหะ น้ำมะพร้าว ช่วยลดอุณหภูมิของร่างกาย คลายความร้อนดับกระหาย
ที่สำคัญควรดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ เพื่อให้ร่างกายปรับตัวสู้กับอากาศร้อนได้ เนื่องจากน้ำเป็นตัวควบคุมอุณหภูมิร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ และควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
