คู่รักที่คบหากันไปสักระยะ  ในช่วงเรียนรู้และปรับตัวเข้าหากันอาจจะต้องมีอะไรผิดใจทะเลาะเบาะแว้งกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา  หรือแม้แต่คู่ที่คบหากันมานานแล้วก็ยังมีเรื่องให้หงุดหงิดกันเป็นประจำ   เรามาดูกันค่ะว่า  เรื่องอะไรบ้างน้าที่คู่รักมักเอามาเป็นหัวข้อทะเลาะกัน
1.เรื่องของเวลา

เป็นสาเหตุต้น ๆ ของการทะเลาะกันของคู่แต่งงานเลยทีเดียวโดยเฉพาะคู่แต่งงานใหม่ๆ ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องการให้ผู้ชายใช้เวลาอยู่ด้วยมาก ๆ ในขณะที่ผู้ชายมีโลกส่วนตัวสูงกว่าผู้หญิงและมักนึกถึงสิ่งแวดล้อมอื่น ดังนั้น ทั้งคู่ต้องปรับตัวเข้าหากัน พยายามแบ่งเวลาให้ลงตัวคือมีเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันสองคนและมีเวลาที่เป็นส่วนตัวของแต่ละคน เช่นบางครั้งผู้หญิงควรจะปล่อยให้ผู้ชายออกไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ หรือผู้ชายอาจจะปล่อยให้ผู้หญิงออกไปช้อปปิ้งบ้าง ก็จะทำให้เรารู้สึกสบายใจและมีความสุขในชีวิตแต่งงานมากขึ้น

2.เรื่องเงิน

คู่แต่งงานส่วนใหญ่ทะเลาะกันเรื่องการเงินว่าใครใช้เงินมากกว่ากัน หรือการจัดสรรการใช้จ่ายที่ไม่ลงตัว หรือการรู้สึกว่าอีกฝ่ายเอาเปรียบไม่ยอมหาเงินมีแต่คอยจ้องจะใช้เงิน รวมถึงปัญหาหนี้สิน น่าเสียดายที่มีคู่แต่งงานหลายคู่ทะเลาะและต้องเลิกกันเพราะเรื่องการเงิน นี้ ดังนั้น ทั้งคู่ต้องตกลงก่อนใช้ชีวิตร่วมกันว่าจะจัดการเกี่ยวกับการเงินอย่างไร เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันและไม่เป็นปัญหาต่อไปในอนาคต

3.เรื่องเพศ

เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องใหญ่ที่ทำให้บางคู่ทะเลาะกัน เพราะความต้องการที่แตกต่างกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการยอมรับความจริงซึ่งกันและกัน ความชอบไม่ชอบ ความต้องการไม่ต้องการ และการแสดงความรู้สึกที่แสดงถึงความรักที่มีให้แก่กันผ่านทางคำพูด สายตา ความห่วงใย การดูแล จะช่วยทำให้ปัญหาเรื่องความต้องการทางเพศหมดไปได้ค่ะ

4.ความหึงหวง

หลายคู่ต้องจบความสัมพันธ์แบบชีวิตคู่ลงเพราะความหึงหวง   ทำให้เกิดความรู้สึกไม่มั่นคง เลยทำให้ต้องการควบคุมอีกฝ่ายหนึ่งไว้เพื่อให้รู้สึกอุ่นใจ ดังนั้น คู่สามีและภรรยาควรมีความไว้วางใจและให้เกียรติซึ่งกันและกันเพื่อให้ชีวิตคู่ดำเนินไปด้วยความสุขค่ะ
5.เรื่องลูก

คู่แต่งงานหลายคู่อาจมีความคิดเรื่องการเลี้ยงลูกที่แตกต่างกัน เพราะมาจากครอบครัวที่ได้รับการเลี้ยงดูที่ไม่เหมือนกันหากยอมรับและปรึกษาหารือกันจะช่วยได้ค่ะ   คุณต้องไม่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน และนึกถึงความสุขของความเป็นพ่อ แม่ ลูกเข้าไว้ ครอบครัวก็จะอยู่อย่างราบรื่นไงคะ
6.งานบ้าน

การทำงานบ้านมักเข้าใจกันว่าเป็นหน้าที่ของผู้หญิง แต่หากผู้ชายยกหน้าที่นี้ให้ผู้หญิงโดยไม่สนใจที่จะช่วยทำเลยก็อาจทำให้ผู้หญิงรู้สึกเหนื่อยหน่ายและหงุดหงิดจนพาลมีปากเสียงกันได้ ดังนั้นเราต้องไม่ผลักภาระให้อีกฝ่ายแต่ต้องช่วยกันรับผิดชอบ ดังนั้ควรมีการตกลงกันว่าใครจะรับผิดชอบอะไร และอะไรควรช่วยกันทำ ก็จะทำให้ปัญหานี้หมดไปได้ไม่ยากค่ะ
7.ครอบครัวของอีกฝ่ายหนึ่ง

แม้ว่าความรักจะเป้นเรื่องของคนสองคน  แต่การอยู่ร่วมกันอาจไม่ใช่ หลายครอบครัวต้องแยกทางกันเพราะมีปัญหากับพ่อ แม่ ญาติพี่น้องของอีกฝ่ายหนึ่ง อาจเข้ากันไม่ได้หรือครอบครัวอีกฝ่ายหนึ่งมาก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของครอบครัวมากเกินไป อยากให้คิดว่าเมื่อคนสองคนตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันแล้วนั่นคือเพราะเกิดจากความรัก เมื่อเรารักเขา เราก็ควรรักครอบครัวของเขาด้วย แม้อาจจะไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้กับครอบครัวของอีกฝ่ายแต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไม่ชอบหรือเกลียดครอบครัวของเขาหรือร้ายกับเขา แค่ทำหน้าที่ในส่วนของเราให้ดีที่สุด   หรือพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกันก็จะทำให้ไม่ต้องมาน้ำตาตกกันทีหลังค่ะ

การใช้ชีวิตคู่ร่วมกันย่อมมีปัญหาและอุปสรรคเพื่อให้เรียนรู้และแก้ไข  อย่ามองว่าการแยกทางกันเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด  เรื่องบางเรื่องหากยอมโอนอ่อนผ่อนตาม  มุ่งมั่นตั้งใจที่จะประคับประคองกันไปก็สามารถอยู่กันให้ตลอดรอดฝั่งได้ค่ะ