ในระยะหลังคลอด คุณแม่หลายคนจะมีความวิตกกังวล ทั้งจากความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของร่างกาย ที่อาจส่งผลให้มีอารมณ์ซึมเศร้าหลังคลอดได้ หรือปัญหาสุขภาพต่างๆ จากการคลอดเบบี๋ เช่น แผลผ่าคลอดอักเสบ จึงเป็นหน้าที่ของสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะคุณพ่อที่จะคอยช่วยเหลือคุณแม่ในระยะนี้
แผลผ่าคลอดเป็นผลจากการผ่าคลอด โดยแผลจะถูกเย็บปิดสนิทอยู่ใต้สะดือยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร หากคุณแม่ดูแลแผลผ่าคลอดรวมถึงดูแลสุขภาพหลังการผ่าคลอดได้ไม่ดีพอ อาจทำให้แผลผ่าคลอดอักเสบได้ โดยอาการที่บ่งบอกว่า แผลผ่าคลอดอักเสบและติดเชื้อ ได้แก่ มีอาการปวดแผล ปวดท้องน้อยอย่างรุนแรง มีรอยบวมแดงที่แผลผิดจากเดิมที่ไม่เคยมี แผลผ่าตัดบวม แผลผ่าตัดแยก แผลไม่ติด มีเลือดซึม ปัสสาวะแสบขัด มีน้ำคาวปลาผิดปกติ มีกลิ่นเหม็นและมีเลือดแดงสีเข้มขึ้นปะปน ขาบวม
ในกรณีที่แผลผ่าตัดคลอดอักเสบ แพทย์จะให้ยาปฎิชีวนะ ยาแก้ปวด และหากมีหนอง แพทย์ต้องทำการเปิดแผลผ่าตัดนั้น เพื่อให้หนองออกมาได้และต้องทำแผลต่อทุกวันจนกว่าแผลจะหาย โดยหากแผลไม่ใหญ่ แพทย์จะรอให้แผลค่อยๆ ติดเอง แต่หากแผลใหญ่มาก แพทย์อาจเป็นต้องเย็บแผลใหม่อีกครั้ง
สมาชิกในครอบครัวควรช่วยกันดูแลคุณแม่ เพื่อให้หลังคลอดร่างกายของคุณแม่จะได้กลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยในกรณีที่แผลผ่าตัดคลอดอักเสบ ควรปฏิบัติดังนี้
- ดูแลคุณแม่โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และพาไปพบแพทย์ให้ตรงตามเวลานัด
- ดูแลให้คุณแม่รับประทานยาหรือใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ให้ครบถ้วน อย่าปล่อยให้หยุดยาเองแม้อาการจะหายแล้ว
- ดูแลให้คุณแม่รับประทานอาหารมีประโยชน์ ให้ครบหมดหมู่ในปริมาณที่เหมาะสมทุกมื้ออาหาร
- ในช่วง 1-2 เดือน หลังคลอด ระวังอย่าให้คุณแม่ยกของหนัก ขับรถ ออกกำลังกาย และมีเพศสัมพันธ์
- ดูแลให้คุณแม่หมั่นล้างแผลและทำความสะอาดผิวอย่างสม่ำเสมอ
- ดูแลให้คุณแม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลรอยแผลเป็น Hiruscar Silicone Pro โดยให้คุณแม่เริ่มใช้ทันที เมื่อแผลหายและปิดสนิทดีแล้ว เพื่อช่วยลดเลือนรอยแผลเป็น รวมถึงทำให้แผลเป็นอ่อนนุ่มขึ้นและสีจางลง
ที่สำคัญควรหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของร่างกายของคุณแม่อยู่เสมอ ยิ่งทุกคนในบ้านใส่ใจดูแลมากเท่าไร ก็จะช่วยให้คุณแม่ไปถึงมือแพทย์ได้ก่อนที่อาการจะรุนแรงจนยากจะแก้ไขได้ค่ะ