คุณพ่อคุณแม่หลายคนคงมีลักษณะลูกในอุดมคติอยู่ในใจกันทั้งนั้น เพราะแน่นอนว่าคุณย่อมอยากได้ลูกน่าตาน่ารัก เป็นเด็กดี เป็นคนเก่งและประสบความสำเร็จ แต่ก่อนที่จะคาดหวังสิ่งใดๆ ในตัวลูก เราลองย้อนมามองครอบครัวของเราก่อนไหมคะว่า คุณได้ทำตัวเป็นพ่อแม่ในอุดมคติที่ลูกๆ ปรารถนากันหรือยัง
พ่อแม่ในอุดมคติของหนู ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง?
รับฟัง
บางครั้งลูกก้แค่อยากมีใครซักคนที่คอยรับฟังปัญหา ความทุกข์ ความไม่สบายใจ ไม่ว่าจะเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก ใครซักคนในครอบครัวที่พร้อมเสมอเมื่อลูกต้องการ
ให้อิสระ
ไม่เฉพาะเด็กหรอกค่ะที่ต้องการอิสระทางความคิด แม้แต่ตัวคุณเองก็เหมือนกัน ดังนั้นไม่ว่าคุณจะสร้างกฎเกณฑ์เพื่อกำหนดเป้าหมายให้ลูกประสบความสำเร็จสักเพียงใด คุณก็ต้องให้อิสระแก่เขาบ้าง เพราะคุณไม่สามารถอยุ่กับเขาได้จนชั่วชีวิตนะคะ
มีเวลาให้
เวลา เป็นเรื่องเล็กที่หลายคนมองข้าม แม้จะทำงานหนักเพื่อหาเงินมาให้ครอบครัวได้อยู่สุขสบายแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ลูกทุกคนโหยหาจากพ่อแม่ คือ เวลา
ให้ข้อคิดที่ดีได้
นอกจากเป็นผู้รับฟังที่ดีแล้วบ้างครั้งคุณอาจจต้องทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและแนะแนวทางให้ลูกด้วย ไม่ใช่แค่ฟัง นิ่งเฉย หรือให้ลูกคิดตัดสินใจเอง
เก็บเงินไว้ให้ลูก
นี่ย่อมดีกว่า การ ให้ลูกต้องเติบโตมาแบบขาดแคลน ด้อยโอกาส โดยเฉพาะโอกาสทางการศึกษาเป้นเรื่องที่คุณต้องวางแผนไว้สำหรับอนาคตของลูกค่ะ
ไม่โกรธ
ลูกพร้อมที่จะเข้าหาและเปิดอกคุยกับพ่อแม่ที่ไม่ขี้โมโห มากกว่าพ่อแม่ที่โกรธกับทุกเรื่อง ดังนั้นหากคุณอยากรู้จักลูกให้ดพอ คุณต้องตัดอารมณืโกรธและรู้จักให้อภัยค่ะ
สร้างกิจการไว้ให้
เด็กที่เติบโตมาในครอบครัวที่ไม่พร้อม ต้องดูแล ทำงาน หาเงินเลี้ยงตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก ย่อมมีต้นทุนชีวิตที่แตกต่างจากครอบครัวที่มีพร้อมม ดังนั้นหากคุณจะมีทุนไว้เพื่อเสริมให้ลุกไปได้ไกลขึ้น ง่ายขึ้น นั่นย่อมดีกว่าแน่นอน
สุขภาพแข็งแรง
ไม่มีใครอยากได้พ่อแม่เจ็บออดๆ แอด ๆ ที่ต้องคอยดูแลตลอดเวลา ไปไหนก้ไม่ได้หรอกค่ะ ดังนั้นคุณต้องทำตัวเองให้แข็งแรง กระปรี้กระเปร่า พร้อมที่จะร่วมกิจกรรมต่างๆ กับลูกได้
เป็นตัวอย่างที่ดี
คุณอยากได้ลูกแบบไหน จงทำเป็นตัวอย่าง เพราะนั่นคือวิธีการสอนที่ดีที่สุด
สุดท้ายแล้วคุณคงจะตระหนักได้ว่า เราทุกคนไม่ใช่พ่อแม่ที่สมบูรณ์แบบ ดังนั้นลูกของเราก็ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบเช่นเดียวกันค่ะ ไม่จำเป็นต้องมีชีวิตที่เหมือนใครจึงจะมีความสุขได้ แต่ความสุขจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน และยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบนั้น แล้วค่อยๆ ช่วยกันขัดเกลาในด้านที่อ่อนด้อย ส่งเสริม พัฒนาในด้านที่โดดเด่น จากนั้นควาสุขในแบบฉบับครอบครัวของคุณเองก็จะเกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืนค่ะ
