“ผู้สูงอายุ” เป็นวัยที่ต้องเผชิญกับปัญหาโรคภัยไข้เจ็บอันมีผลจากความเสื่อมของร่างกาย นอกจากนี้ “ภาวะหกล้ม” ถือปัญหาสำคัญที่ตัวผู้สูงอายุเองและลูกหลานในครอบครัวต้องช่วยกันระวัง เพราะอาจนำไปสู่การบาดเจ็บที่รุนแรง เช่น ภาวะกระดูกหัก อาการบาดเจ็บของสมอง หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้
ข้อมูลจาก นพ.ธีรพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า…
ผู้สูงอายุที่หกล้มประมาณร้อยละ 5 – 10 จะมีการบาดเจ็บรุนแรง เช่น ภาวะกระดูกหัก อาการบาดเจ็บของสมองจนอาจถึงขั้นเสียชีวิต และยังส่งผลกระทบต่อจิตใจ เกิดความกังวล ภาวะซึมเศร้า ตลอดจนสูญเสียความมั่นใจในการเดิน ซึ่งผู้ป่วยร้อยละ 30 – 73 จะมีอาการกลัวการหกล้มอีกจนทำให้สูญเสียความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง
วิธีปฏิบัติตนของผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดหกล้ม
- ควรใช้อุปกรณ์ช่วยในการเดิน เช่น ไม้เท้า ตลอดจนปรับพฤติกรรม เช่น ลุกขึ้นยืนช้าๆ มองหาวัตถุรอบตัวที่สามารถจับยึดได้ในกรณีฉุกเฉิน ไม่เดินบริเวณที่เปียกชื้น ไม่ใส่รองเท้ายางที่หมดอายุการใช้งาน เพราะพื้นรองเท้าลื่นและไม่เกาะพื้น
- นอกจากนี้ บุตรหลานต้องดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดโดยปรับสิ่งแวดล้อมภายในพื้นที่ที่ผู้สูงอายุอยู่เป็นประจำ เช่น ติดตั้งหลอดไฟบริเวณมุมมืดที่เดินผ่านบ่อยๆ โดยปุ่มสวิตช์ควรอยู่ใกล้มือเอื้อม
- อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ควรมีอยู่เท่าที่จำเป็น เตียงนอน เก้าอี้ และโถส้วมมีความสูงพอเหมาะไม่เตี้ยเกินไป ทางเดินและบันไดควรมีราวจับตลอดขั้นบันไดต้องมีความกว้างยาวพอเหมาะและสม่ำเสมอ ไม่สูงชันเกินไป พื้นห้องใช้วัสดุที่ไม่ลื่นโดยเฉพาะในห้องน้ำ ห้องครัว บริเวณจุดเชื่อมต่อระหว่างห้องควรอยู่ในระดับเดียวกัน ไม่ควรมีสิ่งของเกะกะ เช่น พรมเช็ดเท้า สายไฟฟ้า หลีกเลี่ยงการมีสัตว์เลี้ยงในบริเวณที่อยู่อาศัย
การหกล้มโดยไม่มีเหตุอันควร
เช่น หกล้มขณะเดินปกติในบ้าน อาจเกิดจากโรคที่ผู้สูงวัยไม่รู้ตัว ได้แก่ ภาวะความดันโลหิตต่ำจากการเปลี่ยนอิริยาบถ ทำให้เลือดไม่สามารถถูกสูบฉีดไปเลี้ยงสมองได้ทันเวลาและเพียงพอ กลุ่มโรคในระบบไหลเวียนเลือด เช่น หมดสติชั่วครู่ในขณะกำลังเบ่งอุจจาระ หรือปัสสาวะ โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด กลุ่มโรคระบบประสาท เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคพาร์กินสัน โรคปลายประสาทเสื่อม โรคลมชัก โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน สายตาผิดปกติ ผลข้างเคียงจากยาโดยเฉพาะยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ยาโรคความดัน และความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน ล้วนเป็นสาเหตุการหกล้มในผู้สูงวัย
ฉะนั้น ผู้มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ควรตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อคัดกรองสาเหตุที่อาจนำไปสู่การหกล้ม รวมถึงรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นอาหารบำรุงกระดูก และออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงค่ะ