ทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า ‘ความโกรธ’ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต ทำให้เกิดอาการป่วยทางอารมณ์ แต่คงมีแค่ไม่กี่คนที่ทราบว่า การที่เราติดอยู่ในอารมณ์หนึ่งนานเกินไป หรืออารมณ์เปลี่ยนแปลงไปมาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอารมณ์โกรธ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยทางร่างกายตามมาได้ค่ะ
- ถ้าเราโกรธเป็นประจำจะส่งผลให้ลมปราณตับและถุงน้ำดีผลักดันเลือด และลมปราณวิ่งย้อนขึ้นด้านบน ทำให้อาเจียนเป็นเลือด แน่นหน้าอก ถอนหายใจบ่อยหรือรู้สึกเหมือนมีอะไรติดคอ เบื่ออาหาร ปวดหัวแบบแน่นๆ ตึงๆ บางรายที่อาการหนัก อาจถึงขั้นเป็นลมหมดสติ
- หากลมปราณตับไปกดการทำงานของม้าม อาจทำให้มีอาการปวดท้อง ท้องเสีย ในสตรีประจำเดือนอาจผิดปกติ มาช้าบ้าง เร็วบ้าง ไม่สม่ำเสมอบ้าง และปวดประจำเดือน
- อารมณ์โกรธส่งผลต่ออวัยวะตับ ม้าม สามารถแสดงออกที่ตา โดยทำให้มีอาการคันตา เคืองตา ตาแห้ง ต้องหยอดน้ำตาเทียมเป็นประจำ
- เครียดลงกระเพาอาหาร เป็นอีกอาการที่พบได้บ่อย เช่น ในกลุ่มนักศึกษาแพทย์ช่วงสอบที่มีความกดดันสูง บางคนมีอาการท้องเสียก่อนเข้าห้องสอบ หรือแม้กระทั่งมีอาการอาเจียนร่วมด้วย เนื่องจากลมปราณของกระเพาะอาหารติดขัด ม้ามพร่อง ทำให้เกิดอาการดังกล่าว
วิธีจัดการอารมณ์โกรธตามแพทย์แผนจีน
ก่อนอื่นเราต้องมีสติ รู้เท่าทันอารมณ์ของตนเอง กำหนดรู้ในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งเราอาจจะใช้อารมณ์หนึ่งมาควบคุมอีกอารมณ์หนึ่งที่กำลังเกิดขึ้น เช่น โกรธสามีที่กินจากนอกบ้านมาโดยไม่บอก ปล่อยให้ทำกับข้าวรอ ก็คิดเสียว่าสามีทำงานหนัก คงเหนื่อยมาก สงสารเห็นใจเขา เขาคงหิวข้าวทนไม่ไหว เป็นต้น เนื่องจากอารมณ์เศร้าโศกเสียใจสามารถข่มอารมณ์โกรธให้ดับลงได้ โดยอาจจะร้องไห้ออกมาภายหลังจากที่อารมณ์โกรธสงบลงตามความสัมพันธ์ในทฤษฎีปัญจธาตุ
นอกจากนี้เราควรหลีกเลี่ยงอาหารรสหวานจัด เผ็ดจัด ของมัน ของทอด โดยอาจจะเลือกกินอาหารที่มีรสเปรี้ยว เพื่อระบายลมปราณตับที่ติดขัดให้ดีขึ้น
สำหรับสมากชิกในครอบครัวที่เกิดความไม่เข้าอกเข้าใจกันบ้าง ก็ควรเปิดอกพูดคุยกัน อย่าปล่อยให้อารมณ์โกรธควบคุมจนเกิดปัญหา หรือหากมีปัญหาเรื่องอื่นๆ จากนอกบ้าน ก็เล่าสู่กันฟัง ร้องไห้ซบอกคนในบ้านบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนะคะ เพราะนอกจากจะได้ปลดปล่อยความรู้สึกส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพใจแล้ว ยังช่วยให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้นไปอีกด้วยนะคะ