เคยสังเกตกันไหมคะว่าทำไมเวลาที่ลูกร้องไห้ทีไร ถ้าคุณแม่ได้อุ้มได้โอบกอดลูกไว้แนบอกแล้ว เจ้าตัวน้อยที่ร้องไห้งอแงอยู่ก็จะหยุดร้องแทบจะทันที
มีอะไรซ่อนอยู่ในอ้อมกอด???
- การที่คุณแม่สัมผัสลูกเบาๆ ด้วยความนุ่มนวล อบอุ่นและละมุนละไมเป็นการแบ่งปันความรัก ความอบอุ่นที่คุณแม่มีทั้งหมดถ่ายทอดไปสู่ลูกด้วยภาษาสากลที่เรียกว่าการกอด นั่นเอง
- เวลาที่คุณแม่กอดลูกไว้แนบอกเสียงจังหวะหัวใจของคุณแม่ที่เต้นเป็นจังหวะเปรียบเหมือนเพลงกล่อมเด็กที่ร้องเบาๆ ขึ้นมาภายในหัวใจ มีเพียงคุณแม่และลูกน้อยเท่านั้นที่ได้ยิน จึงทำให้ลูกรู้สึกสงบ และปลอดภัยจนหยุดร้องไห้ไปในที่สุด โดยธรรมชาติของเด็กทารกที่ประสาทหู และประสาทตายังไม่พัฒนาเต็มที่นัก ประสาทการรับรู้ทางผิวหนังจึงสื่อสารข้อมูลหลายอย่างมาสู่ลูกน้อยของคุณพ่อคุณแม่
- การกอด คือ ภาษากาย สื่อความหมายแบบไร้เสียง ไม่สามารถใช้ถ้อยคำของภาษาพูดคำใดสื่อสารแทนได้ ทุกคนทุกเพศทุกวัยสามารเข้าใจได้ถึงความหมายของการกอดนั้นว่า เวลาที่คุณแม่กอดลูกน้อยนอกจากเขาจะรับรู้ถึงความรัก ความอบอุ่นแล้วลูกสามารถรับรู้ถึงความมั่นคงปลอดภัย จากอ้อมแขนที่บอบบางของคุณพ่อคุณแม่ที่สามารถจะมอบให้เขาได้มากเท่าที่ลูกต้องการ
- เด็กที่ได้รับสัมผัสแห่งรักจากพ่อและแม่บ่อยๆ จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางจิตใจให้กับลูกได้ เมื่อเขาเติบโตขึ้นจะเป็นเด็กที่มีสุขภาพจิตที่ดี และเข้มแข็งในอนาคต
- การกอดนอกจากจะเป็นตัวช่วยพัฒนาความเข้มแข็งทางด้านจิตใจให้แก่ลูกน้อยแล้ว คุณพ่อคุณแม่ทราบไหมค่ะว่าการกอดด้วยความรักความอบอุ่นจากคุณพ่อและคุณแม่ยังช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางด้านเซลล์สมองของลูกน้อยอีกด้วยค่ะ การกอดที่คุณพ่อคุณแม่แสดงต่อลูกบ่อยๆ จะไปกระตุ้นเซลล์สมองของลูกน้อยให้มีเส้นใยประสาท และจุดเชื่อมต่อของเส้นใยประสาทมากขึ้น การมีเส้นใยประสาทมากขึ้นช่วยให้สื่อนำประสาทมีหนทางวิ่งที่รวดเร็วสามารถส่งสัญญาณประสาทได้เร็วขึ้น และมีการติดต่อประสานงานที่ต่อเนื่องครอบคลุม สมองจึงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นปัจจัยที่บ่งบอกถึงความฉลาดและสติปัญญาได้
กอดลูกบ่อยๆ กันเถอะค่ะคุณ!!