ท้องเสียเป็นกลไกการกำจัดเชื้อโรคออกจากร่างกาย เรียกว่าเป็นอาการยอดฮิตที่ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนก็มักเคยมีอาการนี้ ในส่วนของทารกนั้น โดยทั่วไปอุจจาระของทารกจะมีลักษณะเป็นก้อนนิ่ม ๆ และมีการขับถ่ายบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม พ่อแม่สามารถสังเกตอาการท้องเสียของทารกและลดความเสี่ยงได้ค่ะ
อาการท้องเสียในเด็กเล็กอายุไม่เกิน 1 ปี ส่วนใหญ่เกิดจากการได้รับเชื้อโรคเข้าไปในร่างกาย ซึ่งมักจะเข้าทางปากโดยการกินอาหารหรือดื่มนมซึ่งปนเปื้อนเชื้อโรค รวมถึงการหยิบจับสิ่งของ คลานเล่น รับเอาเชื้อโรคเข้าปาก รวมทั้งเด็กมีภูมิต้านทานโรคต่ำ ซึ่งภูมิต้านทานโรคส่วนหนึ่งอาจได้รับมาจากการกินนมแม่และการได้รับวัคซีน อีกส่วนหนึ่งร่างกายสร้างขึ้นโดยการสัมผัสเชื้อโรคตามธรรมชาติและสร้างภูมิต้านทานจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา
หากเด็กมีอาการท้องเสียพ่อแม่ผู้ปกครองสามารถดูความผิดปกติได้จากลักษณะและความถี่ของอุจจาระที่เปลี่ยนแปลงไปจากปกติ ดังนี้
- อุจจาระเป็นเนื้อเหลว
- ความถี่ของการอุจจาระ 3 ครั้งขึ้นไป ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง
- อุจจาระเป็นมูกเลือด 1 ครั้ง หรือเป็นน้ำปริมาณมาก 1 ครั้งขึ้นไป ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง
วิธีป้องกันท้องเสียที่ดีที่สุดสำหรับเบบี๋
คือ การรักษาความสะอาดเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าปากเด็ก
- พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงเด็กต้องหมั่นล้างมือทุกครั้ง ก่อนจะหยิบจับอาหารหรือชงนมให้เด็กที่กินนมผสม
- ต้องล้างทำความสะอาดขวดนมและจุกนมหลังการใช้ทันทีและฆ่าเชื้อโดยการต้มจนเดือด 10-15 นาที
- ควรชงนมในปริมาณที่กินหมดในครั้งเดียว ถ้ายังกินไม่หมดควรมีฝาครอบจุกให้มิดชิดและไม่ควรทิ้งไว้นานเกิน 2 ชม
ทั้งนี้ ถ้าเด็กมีอาการถ่ายอุจจาระเป็นมูกหรือมูกเลือด ไข้สูงหรือชัก อาเจียนบ่อย ท้องอืด หอบลึก ไม่ยอมดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ทุกชนิด ไม่ยอมดื่มนมหรือกินอาหาร หรือหากดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่แล้วแต่เด็กยังดูเพลีย ซึม ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำบ่อย (มากกว่า 10 ครั้งต่อวัน) ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา ห้ามปล่อยปละละเลยเด็ดขาดเพราะอาการท้องเสียอาจทำให้ร่างกายเด็กสูญเสียของเหลวและเกลือแร่จำนวนมากจนอาจเกิดภาวะขาดน้ำตามมาได้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของทารก
ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญ ไม่อยากให้เบบี๋เสี่ยงท้องเสีย รวมถึงอาจนำไปสู่โรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ พ่อแม่อย่าละเลยเรื่องความสะอาดเด็ดขาดนะคะ