ในช่วงที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลง เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตก หากไม่มีการดูแลสุขภาพที่ดีอาจทำให้เจ้าตัวเล็กป่วยด้วยโรคไข้หวัด หรือโรคระบบทางเดินหายใจได้ โดยเฉพาะโรคไข้หวัด เพราะหากป่วยเป็นไข้หวัดและไม่มีการดูแลสุขภาพที่ดี อาจส่งผลให้เป็นโรคหลอดลมอักเสบและโรคปอดบวมในที่สุด
ทริคดูแลสุขภาพเบบี๋เพื่อรับมือช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง
กลุ่มเด็กอ่อนควรได้กินนมแม่เป็นประจำ
เนื่องจากนมแม่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นอาหารเพียงชนิดเดียวที่เหมาะสมสำหรับทารกแรกเกิดถึง 6 เดือน หลังจากนั้นสามารถให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยจนลูกอายุครบ 2 ปี ส่วนเด็กเล็ก พ่อแม่ผู้ปกครอง ต้องเน้นอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เพื่อสร้างพลังงานและเสริมความแข็งแรงให้กับร่างกาย
พ่อแม่ผู้ปกครองควรใส่ใจเรื่องความสะอาดให้มาก
ไม่ว่าจะเป็นการปรุงอาหารให้สุกร้อนก่อนให้เบบี๋รับประทาน เพราะอากาศร้อนทำให้อาหารบูดเสียง่าย และจะต้องใส่อาหารในภาชนะที่สะอาด ที่สำคัญไม่ควรทิ้อาหารที่ปรุงเสร็จแล้วไว้นานเกิน 2-4 ชั่วโมง รวมถึงต้องล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ทุกครั้งก่อนและหลังทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ ก่อนปรุงประกอบอาหาร หลังการใช้ห้องน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เบบี๋ได้รับเชื้อต่างๆ
ดูแลเบบี๋นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
จากการศึกษาพบว่า การนอนหลับจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของเด็กคงอยู่ในสภาพที่ดี การขาดการนอนหลับจะมีผลกระทบในเชิงลบกับการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยเด็กแต่ละช่วงวัยต้องการการพักผ่อนที่ต่างกัน เช่น วัย 3 เดือนแรก ควรนอน 14-17 ชั่วโมง ต่อวัน, วัย 4 เดือน-1 ปี ควรนอน 12-15 ชั่วโมง ต่อวัน, วัย 1-2 ปี ควรนอน 11-14 ชั่วโมง ต่อวัน
หากมีสมาชิกในบ้านเจ็บป่วย
ควรรีบพาไปรักษาและระวังอย่าให้อยู่ใกล้ทารกน้อยในบ้าน ป้องกันไม่ให้ติดเชื้อโรค หรือหากสงสัยว่าเบบี๋ป่วย ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที
ขนาดผู้ใหญ่ที่คิดว่าร่างกายแข็งแรง พอมาเจอกับอากาศที่เปลี่ยนแปลงก็ยังป่วยกันเลย แล้ววัยเบบี๋ที่ภูมิต้านทานยังน้อยอยู่จะไม่ป่วยได้อย่างไร ฉะนั้นกันไว้ดีกว่าแก้นะคะ