“โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง” (Atopic dermatitis) เป็นโรคผิวหนังอักเสบที่พบบ่อยที่สุดในเด็ก อาการของเด็กที่ป่วยด้วยโรคนี้ ผิวหนังจะแห้งและมีอาการคันมาก ผิวหนังจะไวต่อสารภายนอกที่มาสัมผัส ทำให้มีผื่นขึ้นเป็น ๆ หาย ๆ พอบอกว่าเป็นโรคที่พบบ่อยในเด็ก แล้วอย่างนี้เจ้าตัวเล็กของคุณจะมีโอกาสป่วยมั้ยนะ?
ผู้ป่วย “โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง” แบ่งเป็น 3 ช่วงวัย คือ…
- วัยทารก พบตั้งแต่อายุ 3 เดือน ขึ้นไป ผื่นจะขึ้นบริเวณแก้ม ผื่นด้านนอกของแขน ขา ข้อมือและข้อเท้า โดยลักษณะผื่นจะเป็นตุ่มแดงคันหรือตุ่มน้ำใสเป็นน้ำเหลือง อาการของโรคจะดีขึ้นเมื่ออายุ 2-3 ปี
- วัยเด็กโต ผื่นจะขึ้นที่คอ ข้อพับของแขน และขาทั้ง 2 ข้าง ผู้ป่วยจะคันมาก และเกาจนเป็นผื่นหนา
- วัยผู้ใหญ่ ผื่นจะเหมือนในเด็กโต แต่อาจมีผื่นที่ข้อมือและเท้าร่วมด้วย
สำหรับสาเหตุของโรคยังไม่ทราบแน่นอน แต่พบว่ากรรมพันธุ์มีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากพบว่าเด็กที่เป็นโรคนี้จะมีพ่อแม่หรือญาติเป็นโรคภูมิแพ้ นอกจากนี้ยังพบว่าอาหารบางอย่าง หรือไรฝุ่น จะเป็นตัวกระตุ้นให้ผื่นเลวลง โรคนี้ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ จึงไม่ติดต่อไปยังผู้ใกล้ชิด ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้โรคกำเริบ ได้แก่ การติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา, สารระคายเคืองต่าง ๆ เช่น ผ้าเนื้อหนาหรือสาก ผ้าไนล่อน สบู่ และแป้งบางชนิด ผงซักฟอก เป็นต้น, อากาศร้อน หรือหนาวเกินไป, อาหารบางชนิด เช่น นมวัว ไข่ อาหารทะเล ถั่ว เป็นต้น, การแพ้สารต่าง ๆ ในอากาศ เช่น ไรฝุ่น, การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ เช่น ความเครียด ความกังวล
แม้พันธุกรรมเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ แต่สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถจัดการได้ คือ สิ่งแวดล้อม โดยคุณแม่ตั้งครรภ์ควรดูแลสุขภาพให้ดี หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดการแพ้ได้ง่าย เช่น อาหารทะเล ไข่ ถั่วลิสง นมวัว ช็อกโกแลต แป้งสาลี
เมื่อลูกเกิดมาแล้วควรเน้นให้เบบี๋ดื่มนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือน พยายามหลีกเลี่ยงนมวัวให้นานที่สุด รวมถึงจัดการให้ลูกอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สะอาด ปราศจากฝุ่นและมลพิษ
โดยมากผู้ป่วยโรคนี้จะอาการดีขึ้นเมื่อได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ฉะนั้นสิ่งสำคัญสำหรับพ่อแม่ คือ การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และหากสงสัยว่าเบบี๋ป่วยควรรีบพาไปพบแพทย์ค่ะ