สภาพอากาศในช่วงนี้ของประเทศไทย บางวันก็มีฝนตกหนักอากาศเย็นชื้นทั้งวัน บางวันก็มีฝนตกสลับกับแดดแรง เดี๋ยวฝน เดี๋ยวเย็น เดี๋ยวร้อน ทำให้เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่าย เด็กทารกและเด็กเล็กควรได้รับการดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ เนื่องจากยังไม่มีภูมิคุ้มกันตนเองที่ดีเพียงพอ อาจล้มป่วยได้ง่าย
เคล็ดลับดูแลสุขภาพเบบี๋ให้แข็งแรง ไม่ป่วย แม้ในช่วงฤดูฝน
1. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้เบบี๋ด้วยการให้เด็กกินอาหารที่มีประโยชน์เหมาะสมตามวัย โดยให้ลูกได้กินนมแม่อย่างเดียว ไม่ต้องให้กินน้ำหรืออาหารอื่น ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 เดือน เนื่องจากนมแม่ประกอบด้วยสารอาหารมากกว่า 200 ชนิดที่จำเป็นสำหรับทารก โดยเฉพาะน้ำนมในช่วง 3 วันแรกหลังคลอด ที่เรียกว่า “โคลอสตรัม” อุดมไปด้วยสารคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุครบถ้วนที่เหมาะกับช่วงอายุของเด็ก ช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคเสมือนเป็นวัคซีนให้เบบี๋
เมื่อเบบี๋อายุ 6 เดือน ให้เริ่มกินอาหารที่เหมาะสมตามวัย เช่น กล้วยน้ำว้า ไข่แดง ข้าว ผัก ผลไม้ และสารอาหารอื่น ๆ ควบคู่กับการกินนมแม่ต่อเนื่อง ไปจนถึงอายุ 2 ปีหรือนานกว่านั้น โดยเริ่มต้น ควรให้อาหารในปริมาณน้อย ๆ และมีความเหลว เพื่อความง่าย ในการฝึกกลืน และเหมาะสมต่อกระบวนการย่อย ช่วงเวลาการเริ่มในการให้อาหารเสริมชนิดใหม่ ๆ กับเด็กที่ยังไม่เคยกินอาหาร ควรเริ่มในเวลาเช้าหรือกลางวันที่ผู้เลี้ยงดูสามารถสังเกตอาการของเด็ก หลังจากการได้กินอาหาร เมื่อเด็กกินได้ดีในวันแรก ๆ จึงเพิ่มปริมาณและความเข้มข้นของอาหารเสริมขึ้นช้า ๆ ให้เหมาะสมกับช่วงอายุ
2. ดูแลให้เบบี๋นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการนอนใกล้หน้าต่างเพราะอาจถูกละอองฝน เมื่อมีฝนตกตอนกลางคืน สวมใส่เสื้อผ้าหนา ๆ ทำจากเส้นใยธรรมชาติ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น แต่สวมใสสบาย ระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น ทั้งนี้ หากพบว่าเบบี๋โดนฝนมาแล้ว ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ให้รีบอาบน้ำทันที จากนั้นเช็ดตัวให้แห้ง ให้เบบี๋สวมเสื้อผ้าที่อบอุ่นและสบายตัว อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป
3. ดูแลให้เบบี๋ได้เคลื่อนไหวร่างกาย ได้เล่น ออกแรง ออกกำลังกาย การออกกำลังกายอย่างถูกวิธีและเหมาะสมกับวัยและพัฒนาการของเด็ก จะช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับระบบกล้ามเนื้อ ข้อต่อ เส้นเอ็น ให้พร้อมสำหรับพัฒนาในแต่ละช่วงวัย รวมถึงช่วยสร้างความอบอุ่นและสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ทำให้ลูกพร้อมที่จะต่อสู้กับเชื้อโรคในหน้าฝน
4. ดูแลให้เบบี๋ได้รับวัคซีนป้องกันหลักให้ครบถ้วนตามวัย เช่น ทารกแรกเกิด วัคซีนป้องกันโรคที่ควรได้รับ ได้แก่ วัณโรค ตับอักเสบ บี ครั้งที่ 1, อายุ 1-2 เดือน วัคซีนป้องกันโรคที่ควรได้รับ ได้แก่ ตับอักเสบ บี ครั้งที่ 2, อายุ 2 เดือน วัคซีนป้องกันโรคที่ควรได้รับ ได้แก่ คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ ตับอักเสบ บี ครั้งที่ 1, อายุ 4 เดือน วัคซีนป้องกันโรคที่ควรได้รับ ได้แก่ คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ ตับอักเสบ บี ครั้งที่ 2, อายุ 6 เดือน วัคซีนป้องกันโรคที่ควรได้รับ ได้แก่ ตับอักเสบ บี คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ครั้งที่ 3, อายุ 9 เดือน วัคซีนป้องกันโรคที่ควรได้รับ ได้แก่ วัคซีนป้องกันโรคหัด หัดเยอรมัน คางทูม ครั้งที่ 1, อายุ 1 ปีครึ่ง วัคซีนป้องกันโรคที่ควรได้รับ ได้แก่ คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ ครั้งที่ 4 ไข้สมองอักเสบ 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรก 1 เดือน
นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องดูแลสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ รวมถึงใส่ใจเรื่องสุขอนามัย เน้นความสะอาด เพราะหากเป็นฝ่ายป่วยขึ้นมาเสียเอง มีโอกาสที่จะพาเอาโรคมาติดเบบี๋ได้สูง