การเล่น ถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญมากสำหรับเด็ก เพราะการเล่นจะช่วยให้เจ้าตัวเล็กเกิดการเรียนรู้ ช่วยส่งเสริมพัฒนาการรอบด้านให้แก่เด็ก หากพ่อแม่ ผู้ปกครองเข้าใจถึงธรรมชาติของเด็กและรู้วิธีการสร้างพัฒนาการของเด็กผ่านการเล่น ก็จะช่วยให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ หนึ่งในการเล่นที่ดีต่อเบบี๋ คือ “การเล่นจ๊ะเอ๋”
เด็กเป็นวัยที่มีความต้องการเรียนรู้ด้วยการกระตุ้นพัฒนาการรูปแบบต่าง ๆ มีกล้ามเนื้อมัดใหญ่ มัดเล็ก ที่รอการพัฒนาให้
มีความแข็งแรงและเชื่อมโยงไปถึงพัฒนาการทางสมอง โดยพัฒนาการของเด็ก ถือเป็นต้นทุนสำคัญที่หากพ่อแม่ ผู้ปกครองเสียโอกาสพัฒนาไปแล้ว ก็อาจจะต้องเสียดายไปตลอด เพราะสิ่งเหล่านี้เหมือนเป็นรากแก้ว หากไม่รู้จักดูแลตั้งแต่ต้นก็เหมือนกับสร้างรอยโรคไว้ให้กับรากแก้วนั้น การจะเติบโตขึ้นเป็นต้นไม้ที่สมบูรณ์ งอกงาม ก็อาจจะต้องเหนื่อย หรือเป็นไปได้ยาก
พ่อแม่ ผู้ปกครอง เป็นคนสำคัญที่สุด ซึ่งจะสร้างรากแก้วนี้ได้ เริ่มตั้งแต่ขวบปีแรกของการเจริญเติบโตของลูก การเลี้ยงดูในบ้านเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับพัฒนาการของเด็กในวัยนี้ ซึ่งต้นทุนที่ทุกครอบครัวมีไม่แพ้กันคือความรักความเอาใจใส่ที่สามารถมอบให้กับเจ้าตัวเล็กได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ พ่อแม่ ผู้ปกครองสามารถส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ให้แก่เด็กได้หลากหลายวิธี หนึ่งในวิธีที่ง่ายและได้ผล คือ การเล่นจ๊ะเอ๋
การเล่นจ๊ะเอ๋ มักจะเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเด็ก ๆ ได้ดีเสมอ นิตยสารสร้างสุข ฉบับที่ 196 โดย สสส. ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจโดยกล่าวถึง การเล่นจ๊ะเอ๋ว่าภายใต้ความสนุกสนานนั้นแฝงแรงกระตุ้นมหัศจรรย์ที่ช่วยให้สมองและพัฒนาการของเด็ก ๆ เติบโตในหลายด้านที่ผู้ใหญ่อาจคิดไม่ถึง ดังนี้
1. เรียนรู้ว่าสิ่งต่างๆ ยังคงอยู่แม้จะมองไม่เห็น การเล่นจ๊ะเอ๋ช่วยให้เด็กใน 2 ขวบปีแรกได้เรียนรู้ เรื่องการคงอยู่ของสิ่งต่าง ๆ (Object permanence) จากการที่แม่ปิดหน้า หรือซ่อนแอบตรงไหน แล้วเดี๋ยวเดียวก็จะเปิดหน้าออกมาให้เห็น เป็นเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า เด็กจะเรียนรู้ว่าแม่หายไปจากสายตาเพียงแค่ชั่วคราว และเดี๋ยวแม่ก็กลับมา
2. ฝึกการจดจำข้อมูลว่าพ่อแม่มักจะโผล่มาจากทางไหน และคาดเดาว่าครั้งต่อไปจะเป็นทางใด
3. รู้จักอดทนรอคอย ช่วงเวลาที่แม่ปิดหน้า หรือซ่อนหลังผ้า เด็กก็ต้องรอว่า เมื่อไหร่แม่จะเปิดหรือโผล่มา
4. พัฒนาด้านการสื่อสาร เพราะการสื่อสารสำหรับเด็กเกิดขึ้นเมื่อการยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ มองตา หรือขยับมือไม้แขนขาของเด็กทารกได้รับการตอบสนอง ดังนั้น ปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นขณะที่ลูกเล่นจ๊ะเอ๋กับพ่อแม่จึงช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางการสื่องสารระหว่างกันได้อย่างดี
5. เกิดสายสัมพันธ์ การเล่นจ๊ะเอ๋ คือช่วงเวลาที่ลูกเป็นศูนย์กลาง การสบตา ทำเสียงสูงเสียงต่ำให้เร้าใจ ทุกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะล้วนถักทอสายสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวให้แน่นแฟ้น เกิดความผูกพันในหัวใจของลูก
การเล่นที่ง่ายแสนง่าย แถมยังไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใด ๆ ทั้งง่าย ประหยัด อัดแน่นด้วยประโยชน์มากมายที่ดีต่อพัฒนาการเบบี๋ แล้วจะรออะไร มาเล่นจ๊ะเอ๋กับเจ้าตัวเล็กกันเถอะ
