เพิ่งมีเคสป้อนกล้วยเบบี๋จนเสียชีวิตไปไม่นาน ล่าสุดเกิดเหตุคล้ายคลึงกันซ้ำอีก จากกรณีคุณแม่สูญเสียลูกน้อย เนื่องจากปู่กับย่าป้อนยาลูกกลอน พร้อมกล้วยหอมและกระเทียม งานนี้ต้องทำความเข้าใจคุณแม่และเหล่าผู้เลี้ยงดูอีกครั้งนะคะว่า ทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน ควรกินนมแม่อย่างเดียวค่ะ!!
ข้อมูลจาก นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย ระบุว่า…
ความเชื่อและการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก และองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ เด็กควรได้กินนมแม่อย่างเดียวติดต่อกัน ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 เดือน โดยไม่ต้องให้น้ำหรืออาหารอื่น เนื่องจากนมแม่มีสารอาหารครบถ้วน ย่อยง่าย และถูกสร้างมาให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของทารกที่มีระบบการย่อยและดูดซึมอาหารยังพัฒนาไม่เต็มที่
หากกินอาหารอื่นที่ไม่ใช่นมแม่เข้าไป อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติ เช่น ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ท้องเสีย แพ้อาหาร และเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากลำไส้อุดตัน แต่หลังจากทารกอายุครบ 6 เดือน เมื่อระบบย่อยและดูดซึมอาหารพัฒนาได้ค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว จึงให้เริ่มกินอาหารที่เหมาะสมตามวัย เช่น กล้วยน้ำว้า ไข่แดง ข้าว ผัก ผลไม้ และสารอาหารอื่นๆ ควบคู่กับการกินนมแม่ต่อเนื่องไปจนถึงอายุอย่างน้อย 2 ขวบ
ทารกอายุน้อยกว่า 6 เดือน หากกินนมแม่ ไม่จำเป็นต้องป้อนน้ำ เนื่องจากนมแม่มีน้ำเพียงพออยู่แล้ว สำหรับผลเสียจากการป้อนน้ำทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน จะทำให้เจ้าตัวเล็กได้รับสารอาหารต่างๆ จากนมน้อยลง เนื่องจากพื้นที่ในกระเพาะเล็กๆ ถูกแทนที่ด้วยน้ำไปเสียแล้ว หรือในรายที่รุนแรงทารกอาจเกิดภาวะน้ำเป็นพิษเนื่องจากไตของทารกยังทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงไม่สามารถกรองของเหลวได้อย่างรวดเร็ว จึงเข้าไปคั่งในเซลล์ทั่วร่างกาย ทำให้เกิดอาการกระตุกหรือชัก สมองบวม ปอดบวม โคม่า และเสียชีวิตได้
นมแม่ถือเป็นอาหารที่มีคุณค่าที่สุดสำหรับลูก มีสารอาหารกว่า 200 ชนิด ที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต พัฒนาสมอง จอประสาทตา ทารกที่ได้ดื่มนมแม่จึงมีภูมิต้านทานในการต่อต้านเชื้อโรค และช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ เช่น การติดเชื้อของระบบทางเดินอาหาร การติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ ลดภาวะเสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้ หอบหืดหูอักเสบ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังพบว่าทารกที่กินนมแม่มีการพัฒนาความสามารถทางสมองดีกว่าทารกที่ไม่กินนมแม่
ไม่อยากให้เบบี๋ตัวของคุณเป็นรายต่อไปก็ต้องระมัดระวังเรื่องการให้อาหารเจ้าตัวเล็กนะคะ ยิ่งถ้ามีผู้สูงวัยคอยช่วยเลี้ยงดู ยิ่งต้องทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้เคลียร์ก่อน เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยค่ะ