คุณแม่ทราบหรือไม่คะ ลูกวัยเบบี๋ยังไม่มีภูมิต้านทานที่จะช่วยต่อสู้กับโรคอย่างไข้หวัดและการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารได้ จึงทำให้ป่วยง่ายและหายช้า โดยเฉพาะในช่วงขวบปีแรก ลูกจะมีโอกาสป่วยได้ถึงประมาณ 6-12 ครั้ง และป่วยติดต่อกันนานถึง 7-10 วัน แต่นั่นไม่ได้ความว่าคุณแม่จะช่วยหลีกเลี่ยงภาวะต่างๆ ที่จะทำให้ลูกป่วยไม่ได้นะคะ
- ในช่วง 2-3 เดือนแรก มีไข้สูงวัดทางทวารหนักสูงเกิน 38°C รีบพาไปพบแพทย์ทันที อย่ารอ
- ระยะ 2 เดือนแรก ควรจะระวังให้มากเป็นพิเศษ โดยพยายามให้เขาอยู่ที่บ้านและไม่พาเขาไปในที่ที่มีคนเยอะๆ
- ถ้าต้องพาเขาไปนอกบ้านด้วย คุณก็ควรจะใช้เป้อุ้มหรือดึงหลังคารถเข็นลงมา ซึ่งจะทำให้คนแปลกหน้าไม่กล้าเข้ามาจับไม้จับมือหรือบีบแก้มเขาเล่น และควรจะให้เขาอยู่ห่างจากคนที่ไอหรือจามสัก 6 ฟุต
- บอกคนที่ไม่สบายว่าถ้าจะมาเยี่ยมลูก ก็ควรจะรอจนไม่มีอาการและไม่มีไข้มาไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมงแล้วเสียก่อน (โดยไม่ต้องกินยาลดไข้) และบอกเด็กเล็กๆ ที่มากับพ่อแม่ตัวเองว่า ดูน้องได้ แต่อย่าจับตัวน้องนะจ๊ะหรือใกล้ขนาดหายใจรดได้
- หมั่นล้างมือฟอกสบู่ เพื่อขจัดเชื้อโรคที่มือโดยฟอกสบู่นานไม่ต่ำกว่า 20 วินาทีทุกครั้งที่คุณกลับมาจากที่สาธารณะ ใช้ห้องน้ำ กินอาหารหรือเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูก เพราะในอุจจาระมีแต่เชื้อแบคทีเรีย ซึ่งถ้าเล็ดลอดเข้าไปในปากลูก ก็จะทำให้เขาท้องร่วงและอาเจียน
- ให้นมแม่นานที่สุด เพราะมีผลวิจัยที่ชี้ว่าถ้าคุณให้นมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน โอกาสที่ลูกจะเป็นไข้หวัดและติดเชื้อที่หูและคออย่างรุนแรงก็จะลดลงถึง 63 เปอร์เซ็นต์ การกินนมแม่ยังทำให้โอกาสที่เขาจะติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจและเป็นหวัดลงกระเพาะลดลงไม่น้อยเลยด้วย
- ในกรณีที่คุณล้างมือฟอกสบู่ไม่สะดวก การใช้เจลฆ่าเชื้อสูตรแอลกอฮอล์แบบพกพา หรือวางไว้ในจุดที่หยิบใช้สะดวก เตรียมไว้ให้คนเยี่ยมใช้ ก็เป็นวิธีที่ใช้ทำความสะอาดมือได้ดีพอๆ กันค่ะ
- เชื้อโรคมีชีวิตอยู่บนของใช้อย่างรถเข็นในซูเปอร์มาร์เกตได้นานหลายชั่วโมง คุณจึงควรจะพกทิชชูเปียกสูตรฆ่าเชื้อไว้คิดในกระเป๋าเสมอนะคะ
- เลี่ยงเชื้อโรคที่โรงพยาบาล ถึงจะมีห้องแยกสำหรับเด็กป่วยกับเด็กที่มาตรวจร่างกายตามปกติ ห้องรอตรวจก็ยังเป็นสถานที่ที่มีแต่เชื้อโรคอยู่ดี คุณจึงควรจะเลี่ยงเด็กป่วยที่ไอหรือจามโดยขอนัดแพทย์ให้ลูกเป็นคิวแรกๆ หรือท้ายๆ หรือจะขอพาเขาไปนั่งรอในห้องตรวจที่ว่างอยู่ก็ได้
- พาลูกไปรับวัคซีนให้ครบตามกำหนดเวลา ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยป้องกันไม่ให้เขาเป็นโรคอย่างหัด เยื่อหุ้มสมองอักเสบและอีสุกอีใสได้ดีที่สุด ผลวิจัยยังชี้ว่าการได้รับวัคซีนหลายชนิดในเวลาใกล้ๆกันไม่ได้เป็นอันตรายต่อทารกอย่างที่กลัวกันด้วย
- คนใกล้ตัวลูกควรได้รับวัคซีนด้วย โดยเฉพาะวัคซีนไข้หวัดใหญ่และไอกรนเพราะถ้าว่าที่คุณแม่ได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ภูมิต้านทานก็จะถูกส่งต่อไปยังทารกในครรภ์ และน่าจะช่วยป้องกันไม่ให้เขาเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ประมาณ 6 ซึ่งในทารกแรกเกิด ไข้หวัดใหญ่ก็อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต ว่าที่คุณแม่ยังควรจะได้รับวัคซีนไอกรนด้วย จะได้ไม่แพร่เชื้อให้ลูกวัยแรกเกิดซึ่งยังไม่ได้รับวัคซีน คนใกล้ตัวลูก (อย่างพี่เลี้ยงเด็ก) ก็ควรจะได้รับวัคซีนเหล่านี้เช่นกัน
เรื่องโรคภัยไข้เจ็บสำหรับเด็กเล็กคงป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดได้ยาก แต่อย่างไรเสียการป้องกันเท่าที่ทำได้ก็ลดความเสี่ยงที่ลูกจะป่วยบ่อยๆ หรือลดความรุนแรงของอาการป่วยต่างๆ ลงได้มากเชียวค่ะ