ทริคเสริมภูมิคุ้มกันให้เบบี๋ พร้อมรับมืออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

0

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตก เรียกว่าหากดูแลตัวเองไม่ดีพอก็ง่ายต่อการเจ็บป่วย ในส่วนของทารกน้อยนั้น ต้องระวังขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะป่วยง่ายเนื่องจากภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงและยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่เท่ากับผู้ใหญ่ อย่างไรก็ตาม พ่อแม่สามารถเสริมสร้างและกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้เบบี๋แข็งแรงขึ้นได้ ดังนี้

1. นมแม่คืออาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก อุดมด้วยสารอาหารที่ช่วยในการเจริญเติบโต ทั้งยังมีสารอาหารที่ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ลูก ดังนั้น ควรให้เบบี๋กินนมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิด จนถึง 6 เดือน และควรกินต่อเนื่องไปจนอายุ 2 ขวบ หรือนานกว่านั้น ทั้งนี้ ควรให้เบบี๋กินนมแม่ควบคู่กับอาหารตามวัยที่เหมาะสม เพื่อให้ลูกน้อยมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงเติบโตอย่างสมวัย โดยน้ำนมแม่มีสารภูมิคุ้มกันในปริมาณสูง อาทิ เป็นไลโซไซม์ (เอนไซม์ที่มีฤทธิ์ทำให้เชื้อตาย), แลตโตเฟอริน (โปรตีนที่ช่วยต่อต้านเชื้อโรค), bifidus growth factor (สารที่ช่วยให้แบคทีเรียไม่สามารถอาศัยอยู่ในลำไส้ได้) กล่าวคือ นมแม่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อ และลดโอกาสที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ให้กับลูกได้

2. ดูแลให้ลูกได้นอนหลับอย่างเพียงพอ การนอนหลับส่งผลต่อการหลั่งโกรทฮอร์โมน หากมีการนอนหลับที่เหมาะสมตั้งแต่วัยทารก จะทำให้มีส่วนสูงที่เพิ่มขึ้นอย่างเต็มศักยภาพได้ โดยเด็กในแต่ละช่วงวัยต้องการชั่วโมงของการหลับที่เพียงพอต่อร่างกายแตกต่างกัน เช่น เด็กวัย 4-12 เดือน ต้องการการนอนหลับที่ 12-16 ชั่วโมงต่อวัน, เด็กวัย 1-2 ปี ควรนอนหลับให้ได้ 11-14 ชั่วโมง ทั้งนี้ การนอนหลับไม่เพียงพอทำให้ระบบภูมิคุ้มกันไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น การตอบสนองของภูมิคุ้มกันต่อวัคซีนลดลง และในระยะยาว เพื่อให้การนอนหลับมีคุณภาพ (Good Sleep Hygiene) ผู้ปกครองควรดูแลให้เบบี๋เข้านอนและตื่นนอนในเวลาที่สม่ำเสมอในแต่ละวัน โดยเริ่มฝึกตั้งแต่เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป

3. ส่งเสริมให้เบบี๋ออกกำลังกายและเล่นสนุก เช่น เด็กวัยแรกเกิด-1 ปี เน้นกิจกรรมบนพื้นเป็นหลัก อาทิ การนอนคว่ำชันคอ การเอื้อมหยิบจับ/ ดึง/ ปัดลูกบอลหรือของเล่น การหมุนตัว คลาน การนั่ง การยืน เดิน การเล่นกับผู้ปกครอง เนื่องจากเด็กวัยนี้ กล้ามเนื้อยังไม่พร้อมสำหรับการวิ่งหรือกระโดด ควรเน้นให้มีการเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสมตามวัยอย่างเพียงพอ, เด็กวัย 1- 3 ปี เน้นกิจกรรมการเคลื่อนไหวพื้นฐาน อาทิ คลาน ยืน เดิน วิ่ง กระโดด ขว้าง ปีนป่าย เนื่องจากเด็กวัยนี้กล้ามเนื้อเริ่มมีพัฒนาการเพิ่มขึ้น สามารถเดิน วิ่ง กระโดดได้ ควรปล่อยให้เด็กเล่นตามชอบ เน้นความสนุก มีกิจกรรมที่หลากหลาย โดยการออกกำลังกายช่วยกระตุ้นให้จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารมีการเจริญเติบโตหลากหลายเพิ่มขึ้น

4. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและปกป้องลูกให้ปลอดภัยจากโรคต่าง ๆ ด้วยการฉีดวัคซีนให้ครบ และการฉีดกระตุ้นซ้ำตามอายุที่กำหนด เนื่องจากทารกแรกเกิดไปจนถึง 1 ขวบปีนั้น ยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่ดีพอในการต่อต้านเชื้อโรคต่าง ๆ หากได้รับเชื้อโรคในช่วงนี้ เช่น เชื้อโรคหัด ไวรัสตับอักเสบ ก็อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ และการจะสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กในช่วงนี้ได้ดีที่สุดก็คือการฉีดวัคซีน ซึ่งการฉีดวัคซีน ก็เป็นการเอาแบคทีเรียหรือเชื้อโรคนั้น ๆ มาทำให้อ่อนฤทธิ์หรือทำให้ตาย ก่อนที่จะฉีดเข้าไปในร่างกาย เพื่อให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาสู้กับโรค กล่าวคือ วัคซีนจะช่วยป้องกันเบบี๋จากโรคต่าง ๆ ได้ หรือหากเกิดการติดเชื้อโรคนั้น ๆ ขึ้นมา อาการก็จะไม่รุนแรงเท่ากับการที่ไม่ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนเลย

อยากให้เบบี๋เติบโตอย่างแข็งแรงลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วย พ่อแม่ก็ต้องดูแลใส่ใจให้รอบด้าน โดยเฉพาะการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยเคล็ดลับทั้ง 4 ข้อข้างต้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *