วิธีดูแลเบบี๋เมื่อเกิดอาการ “อุจจาระร่วง”

0

ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.- ต.ค. 2559 พบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงในเด็ก อายุแรกเกิด – 5 ปี รวม 248,375 ราย เสียชีวิต 3 ราย (เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี)

เห็นตัวเลขแล้วน่ากลัวทีเดียว ฉะนั้นพ่อแม่ต้องทำความรู้จักโรคนี้ให้มากขึ้น เพื่อหาวิธีป้องกันและดูแลเจ้าตัวเล็กอย่างถูกวิธีค่ะ!

โรคอุจจาระร่วง เป็นปัญหาที่พบบ่อยในเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี

สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส  และเชื้อแบคทีเรีย จากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อโรคปนเข้าไป โดยรับเชื้อได้จากหลายทาง อาทิ จากการผสมนม โดยใช้น้ำที่ไม่ได้ต้มเดือดหรือขวดนมที่ไม่สะอาดหรือคนชงไม่ได้ล้างมือ, เด็กที่ชอบดูดหรืออมนิ้วมือและหยิบของที่ตกพื้นเข้าปาก, ดื่มน้ำที่ไม่สะอาด เป็นต้น ผู้ป่วยจะมีอาการถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ หรือถ่ายเหลวบ่อยครั้ง โดยทั่วไปอาการจะไม่รุนแรง แต่บางรายอาจขาดน้ำรุนแรงจนต้องไปพบแพทย์

baby crying in the crib

เมื่อเด็กมีอาการอุจจาระร่วงควรให้อาหารเหลว หากยังถ่ายบ่อยควรผสมสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ (ORS) ให้เด็กดื่มทีละน้อย บ่อย ๆ ถ้าเด็กดื่มได้ดีไม่อาเจียน หลังดื่ม ORS ประมาณ 4 ชั่วโมง ก็เริ่มให้นมแม่หรือนมผสมครั้งละน้อยหรือให้หม่ำโจ๊กเปล่า ถ้าเด็กรับได้และดีขึ้น ค่อยเพิ่มชนิดอาหารและปริมาณ แต่ถ้าเด็กอาเจียนหลายครั้ง ถ่ายเป็นน้ำครั้งละมากๆ มีไข้สูง ปัสสาวะน้อย อุจจาระเป็นมูกเลือด ให้พาไปพบแพทย์

โรคอุจจาระร่วงในเด็กสามารถป้องกันได้โดย เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะนมแม่สะอาดและมีภูมิคุ้มกันโรคอุจจาระร่วง, ดูแลความสะอาดของลูกและคนเลี้ยง โดยล้างมือให้สะอาดใช้ห้องน้ำและก่อนปรุงอาหารหรือรับประทานอาหารทุกครั้ง, ให้เบบี๋รับประทานอาหารที่สุกใหม่ๆ และดื่มน้ำที่สะอาด, กำจัดแหล่งเพาะแมลงวัน ขยะในบ้านควรเก็บทิ้งในถังมีฝาปิดมิดชิดทุกวัน, เท หรือ ถ่ายอุจจาระลงส้วมทุกครั้ง

ทั้งนี้ไม่ควรให้เด็กรับประทานยาหยุดถ่าย เพราะแม้การถ่ายจะหยุดไป แต่อาการอุจจาระร่วงไม่ได้หายอย่างแท้จริง จะมีน้ำอุจจาระขังในลำไส้ ถ้ากินมากท้องจะอืด และอาจเกิดโรคแทรกซ้อนได้ค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *