พ่อ แม่ คือ คนสำคัญที่จะอบรมบ่มเพาะ และเลี้ยงดูเด็กให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญาที่สมบูรณ์ มีความสุข และสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้
ในส่วนของการส่งเสริมพัฒนาการของเบบี๋นั้นทำได้ด้วยแนวคิด “กิน กอด เล่น เล่า” แต่ละอย่างมีวิธีอย่างไรบ้าง ต้องติดตามค่ะ
“กิน”
ในช่วง 0-3 ปีแรก สมองเด็กจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วจนถึงร้อยละ 80 ของสมองผู้ใหญ่ เด็กจะได้เรียนรู้และมีพัฒนาการทั้งร่างกายและสมอง แม่ควรให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียวถึง 6 เดือน จากนั้นให้หม่ำควบคู่กับอาหารตามวัยจนอายุ 2 ปีขึ้นไป
นมแม่มีสารอาหารที่สำคัญสำหรับการพัฒนาสมอง เป็นกิจกรรมที่ทำให้แม่และลูกใกล้ชิดกัน เกิดสายใยความรักความผูกพัน ทำให้เด็กมี IQ และ EQ ที่ดีในอนาคตค่ะ
“กอด”
เบบี๋วัยนี้ต้องการการสัมผัสรักที่มากเป็นพิเศษ การกอดของแม่ทำให้ลูกรู้สึกปลอดภัย ช่วยลดความเจ็บปวดทางร่างกายของเจ้าตัวเล็ก ช่วยปรับสมดุลอุณหภูมิร่างกายทารก ทั้งยังมีผลต่อพัฒนาการทางอารมณ์ของลูก
นอกจากนี้ผลการวิจัยในต่างประเทศค้นพบว่าการสัมผัสและการกอดลูกน้อยวัยทารกนั้น มีส่วนช่วยเรื่องพัฒนาการของเด็กตั้งแต่ในช่วงขวบปีแรก และจะคงอยู่กับตัวเด็กตลอดไปจนเขาเติบโต
“เล่น”
พ่อแม่ควรพูดคุยเล่นส่งเสียงร้องเพลงกับเด็ก ช่วงแรกเกิดถึงอายุ 6 เดือน เลือกของเล่นที่มีเสียงและเป็นภาพ เลือกของที่เด็กคว้าจับได้ 6 เดือนถึง 1 ปีให้เด็กได้นั่งเล่นของเล่น เช่น บล็อกตัวต่อนิ่ม ลูกบอลเล็ก หรือปล่อยของลงพื้น อายุ 2-3 ปี ให้เด็กได้เล่นรูปต่อเป็นภาพหุ่นมือ ตุ๊กตาหรือกระโดด ปีนป่าย เพื่อทดสอบทักษะร่างกายของตัวเอง
“เล่า”
พ่อแม่สามารถเล่านิทานให้ลูกฟังได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ หรือเมื่อเด็กอายุ 3 เดือน ให้เริ่มเล่านิทานให้ฟังเป็นประจำทุกวันจนเด็กโตควรเลือกนิทานที่มีภาพน่ารัก รูปสัตว์ ใช้เสียงสูงๆ ต่ำๆ หรือร้องเพลงประกอบขณะเล่าทุกครั้งและควรเล่าให้จบเล่ม และควรสอดแทรกการปลูกฝังจริยธรรม คุณธรรม ให้ลูกไปด้วย
ลองไปปรับใช้กันดูนะคะ 🙂