ผิวเบบี๋ต่างจากผู้ใหญ่ อยากให้ผิวสุขภาพดี ต้องดูแลให้ถูกวิธี

0

ผิวหนัง เปรียบเสมือนเกราะป้องกันที่ธรรมชาติสร้างขึ้นเพื่อคุ้มครองร่างกายให้ปลอดภัยจากสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตราย เช่น เชื้อโรค แสงแดด ฝุ่นละออง สารเคมี ฯลฯ ดังนั้น ผิวหนังจึงเปรียบเสมือนกระจกเงาแสดงให้เห็นถึงสุขภาพของร่างกายด้วย อยากให้ผิวทารกสุขภาพดี ต้องดูแลให้ถูกวิธี เพราะผิวเบบี๋ต่างจากผู้ใหญ่

ผิวของเด็กทารกจะบอบบางกว่าในผู้ใหญ่และการทำงานของต่อมเหงื่อและต่อมไขมันยังไม่ดีสมบูรณ์ จึงต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ เมื่อแรกเกิดผิวจะถูกปกคลุมด้วยไขเหนียวๆ สีเทาปนขาว ซึ่งไขนี้ประกอบด้วยไขมันจากต่อมไขมันปนกับเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วและหลุดลอกออกมา หน้าที่ของไขนี้จะคอยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคหรือสารระคายเคืองซึมเข้าสู่ผิวหนัง การดูแลคือ การใช้น้ำอุ่นเช็ดไขออกเบาๆ เท่านั้น

ผิวทารกแรกเกิดประกอบด้วยเซลล์ชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ มีต่อมไขมัน ต่อมเหงื่อเหมือนผิวหนังผู้ใหญ่ แต่ผิวทารกแรกเกิดบางกว่า การทำงานของต่อมไขมันและต่อมเหงื่อยังไม่สมบูรณ์เท่ากับผู้ใหญ่จึงเกิดผดหรือตุ่มพองใสได้ง่าย นอกจากนี้การทำงานของระบบภูมิต้านทานต่อเชื้อโรคยังไม่สมบูรณ์ และสะดือยังเป็นรอยเปิดซึ่งสามารถเป็นทางเข้าของเชื้อโรคได้ ทารกจึงมีโอกาสติดเชื้อที่ผิวหนังได้ง่าย ดังนั้น ต้องล้างมือให้สะอาดก่อนอุ้มหรือสัมผัสเด็กทารก

เสื้อผ้าสำหรับทารกควรใช้ผ้าเนื้อนุ่มและบางเบา ควรเป็นผ้าฝ้ายชนิดโปร่งบางหรือผ้าใยป่าน ระบายอากาศได้ดี ไม่ควรใช้ผ้าเนื้อแข็ง เช่น ผ้าไนลอน ผ้าใยสังเคราะห์ ผ้าขนสัตว์ เนื่องจากระบายอากาศได้ไม่ดีนัก จะทำให้อบ ร้อน เกิดผดผื่นคันง่าย ในการทำความสะอาดไม่ควรใช้ผงซักฟอกทั่วไปแต่ควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กอ่อน เนื่องจากถ้าล้างออกไม่หมด สารเคมีที่ตกค้างจะทำให้เกิดผิวหนังอักเสบได้ง่าย

การดูแลผมในทารกที่เกิดใหม่จะมีไขหรือสะเก็ดหนาบนศีรษะซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติ เกิดจากฮอร์โมนของแม่กระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานมากกว่าปกติ ดังนั้น จึงควรดูแลด้วยการทาด้วยน้ำมันมะกอกและสระด้วยแชมพูสำหรับเด็กวันละ 1 ครั้ง ไม่ควรแกะสะเก็ดออก เพราะจะทำให้เลือดออกหรือมีแผล

การเลือก สบู่ แชมพู แป้ง ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นสำหรับทารก มีหลักดังนี้

1. ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กควรจะปราศจากน้ำหอมและสารปรุงแต่ง เช่น สีซึ่งทำให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคืองได้ง่าย

2. สบู่ควรจะมีฤทธิ์เป็นด่างน้อยกว่าสบู่ทั่วไปหรือมีความเป็นกรดด่างเท่าๆ กับผิว หลีกเลี่ยงสบู่ที่มีส่วนผสมของสารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เช่น สบู่ยา PhisohexTM ที่มีส่วนผสมของ Hexachlorophene เพราะมีรายงานว่าทำให้ทารกเกิดอาการชักได้

3. ไม่แนะนำให้ใช้สบู่ยาทำความสะอาดผิวหนังทารกที่ปกติ เพราะผิวหนังเด็กปกติที่ไม่มีรอยแผล โอกาสที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ผิวหนังเกิดได้น้อยอยู่แล้ว การดูแลผิวจึงเน้นถึงความสะอาดเท่านั้น

4. แชมพูสระผม สามารถเลือกใช้เป็นชนิดเดียวกับที่ทำความสะอาดผิวได้ และควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบว่าระคายเคืองต่อเยื่อบุตาน้อย

5. การทาแป้ง อาจช่วยลดการเสียดสีในบริเวณข้อพับได้ ควรเลือกแป้งที่เนื้อเนียนละเอียด และระวังการทาที่หนาเกินไป เนื่องจากแป้งอาจจับตัวเป็นก้อน และต้องระมัดระวังการทาบริเวณใบหน้า เนื่องจากเด็กอาจสูดฝุ่นแป้งเข้าปอดได้ได้ง่าย

6. โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์ของเด็กมีส่วนประกอบและคุณภาพในแต่ละบริษัทไม่ต่างกันมาก เพราะต้องผ่านการทดสอบว่ามีคุณสมบัติเหมาะสำหรับทารกจริงหรือไม่ ดังนั้น ไม่ว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์ใดควรเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับทารกเท่านั้น

ทั้งนี้ ไม่แนะนำให้ฟอกสบู่และใช้น้ำอุ่นมากเกินไปเพราะจะทำให้ผิวแห้ง การทาผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นหลังอาบน้ำจะช่วยให้สภาพผิวของทารกชุ่มชื้นและลดการระคายเคืองได้มากขึ้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *