“ท้องผูก” เป็นปัญหาสุขภาพของทารกน้อยที่สร้างความกังวลใจให้เหล่าคุณแม่ได้ไม่น้อย เพราะเมื่อท้องผูก ก็จะทำให้เบบี๋รู้สึกอึดอัด หงุดหงิด ร้องไห้ ขับถ่ายแต่ละทีต้องเบ่งด้วยยากลำบาก อุจจาระตกค้างอยู่ในร่างกายทำให้ลูกน้อยปวดท้อง ไม่อยากกินอาหาร ไม่อยากเบ่งอุจจาระ ซึ่งจะเป็นปัญหาเรื้อรังต่อไป
อาการท้องผูกอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเปลี่ยนอาหาร การขาดน้ำ มีการอักเสบหรือเป็นฝีแถวๆ ทวารหนัก หรือ อาการป่วยเล็กน้อย เช่น เป็นหวัด แต่ในเด็กที่เลี้ยงด้วยนมแม่มักไม่ค่อยมีอาการท้องผูก เพราะนมแม่ย่อยได้ง่ายกว่า สัญญาณความถี่ของการอุจจาระที่บ่งบอกว่าลูกรักท้องผูก คือการถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งใน 1 สัปดาห์ หรืออาจถ่ายทุกวันแต่ต้องเบ่งมากและอุจจาระแข็ง หรือเป็นก้อนเล็ก ๆ
วิธีแก้ปัญหาเพื่อลดอาการท้องผูกให้ลูกน้อย
- เมื่อทารกท้องผูกควรให้นมตามปกติ ทั้งนี้ การกินนมไม่เพียงพอจะทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ คุณแม่ต้องแน่ใจด้วยว่าได้ให้นมเพียงพอกับความต้องการของเบบี๋แล้ว
- สำหรับลูกน้อย 6 เดือนขึ้นไป ควรให้ลูกกินข้าวบดละเอียดผสมกับผักตุ๋น และเพิ่มน้ำผลไม้ หรือใช้น้ำลูกพรุนสกัดเจือจางด้วยน้ำต้มสุกอย่างละเท่า ๆ กัน ค่อย ๆ ป้อนลูกโดยเริ่มจาก 15-20 ซีซีวันละครั้ง และค่อย ๆ เพิ่มปริมาณ หากทารกท้องผูกนานหรือถ่ายไม่ออกหลังจากใช้วิธีดังกล่าว ควรรีบพาไปพบแพทย์
- นวดท้องให้ลูกอย่างนุ่มนวล โดยนวดตามเข็มนาฬิกา อาจใช้เบบี้ออยล์เพื่อช่วยในการนวด และพยายามนวดต่อไปเรื่อย ๆ หากลูกชอบและดูผ่อนคลาย สบายตัว
- ฝึกนิสัยให้ลูกน้อยได้ขับถ่ายเป็นเวลาทุกวัน โดยให้ฝึกให้ลูกอายุ 1 ขวบขึ้นไปได้หัดนั่งกระโถนหรือชักโครก และพ่อแม่ไม่ควรจะดุหรือทำโทษเมื่อลูกยังทำได้ไม่คล่อง เพื่อไม่ทำให้ลูกรู้สึกไม่ดีต่อการขับถ่าย ควรกระตุ้นด้วยคำชมเชยให้ลูกรู้สึกอยากขับถ่าย
- หากเบบี๋ท้องผูกเป็นเวลานาน ไม่ควรใช้ยาระบายเพราะอาจเกิดอันตรายได้ ควรรีบพาไปพบแพทย์
สำหรับเด็กเล็กที่ท้องผูกนะคะ ควรกระตุ้นให้ลูกได้ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้วต่อวัน ให้กินผักและผลไม้ที่กากใยมากขึ้น เช่น มะละกอ กล้วย ส้ม เพื่อให้อุจจาระอ่อนตัวและขับถ่ายได้สะดวกยิ่งขึ้นค่ะ
