การที่ต้องอุ้มเบบี๋เป็นเวลานานๆ อาจทำให้ปวดเมื่อยแขนและหลังได้ ครั้นจะใช้รถเข็นเด็กก็ไม่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับลูก “เป้อุ้มเด็ก” จึงเป็นไอเท็มที่ผลิตขึ้นเพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว ส่วนแบรนด์ไหนจะคู่ควรแก่การเปย์ ลองดูการจัดอันดับ Best Baby Carriers 2018 ของ Mommyhood101.com เป็นไกด์ไลน์กันค่ะ
1.LILLEBaby Complete All Season
เป้อุ้มเด็กจากอเมริกาที่เป๊ะทั้งความงามและประโยชน์ใช้สอย สำหรับรุ่นนี้ ใช้ผ้าฝ้ายแบบพิเศษที่ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม ช่วยให้อากาศไหลเวียนไปที่ด้านหลังและด้านข้างของเบบี๋ได้มากขึ้น สามารถปรับเป้ได้ 6 รูปแบบตามการใช้งาน พร้อมดีไซน์ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด เช่น เข็มขัดที่กว้างขึ้น สายสะพายที่นุ่มสบาย
2.Ergobaby 4-Position
อีกหนึ่งแบรนด์ดังจากอเมริกาที่ครองใจมนุษย์แม่ทั่วโลก ในส่วนของรุ่น 4-Position บอกเลยว่าคุ้มค่ามากๆ เพราะมีน้ำหนักเบา สวมใส่ได้ง่ายและสบาย ให้สัมผัสที่นุ่มนวล ที่สำคัญสามารถปรับให้เข้ากับรูปร่างที่แตกต่างได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ขณะสวมใส่เป้อุ้มนี้คุณแม่ยังสามารถให้นมเจ้าตัวเล็กได้อย่างคล่องตัว
3.BOBA 4G
ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์เป้อุ้มเด็กระดับท็อป คือตอบโจทย์ทั้งในแง่ความสะดวกสบาย ความสวยงามมีสไตล์ ความทนทาน โดยรุ่น 4G นี้ ส่วนที่คาดเอวใช้ผ้าที่หนา จึงช่วยรองรับน้ำหนักเบบี๋และช่วยบรรเทาอาการปวดไหล่ของผู้อุ้มได้ดี แต่ข้อเสียคือไม่สามารถปรับตำแหน่งให้ทารกนั่นหันหน้าออกไปข้างนอกได้
4.Onya Outback
แบรนด์น้องใหม่แต่มาแรงมาก เพราะครบครันทั้งคุณภาพ สวมใส่สบาย ความสะดวกในการใช้สอย รวมถึงความคล่องตัว โดย Onya Outback ออกแบบมาเพื่อรองรับการเคลื่อนไหวและท่านั่งที่หลากหลายของเบบี๋ สามารถปรับตำแหน่งเป้อุ้มได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เรียกว่าเบบี๋นั่งสบายส่วนหม่ามี้ก็ไม่เหนื่อยเวลาอุ้ม
5.Pognae No 5 Organic
แม้เป็นแบรนด์สัญชาติเกาหลี แต่บอกเลยว่าฮอตฮิตมากในออสเตรเลียและยุโรป โดยรุ่น No 5 Organic นี้เป็นแบบ Hipseat คือ จะมีก้อนที่นั่งอยู่ตรงหน้าท้องผู้อุ้ม เบบี๋จึงสามารถนั่งหรือยืนบนก้อนนี้ได้ จึงสะดวกและรองรับการใช้งานได้หลากหลาย แถมยังปลอดภัยด้วยการใช้วัสดุคุณภาพสูง เช่น ผ้าฝ้ายออแกนิค
เป้อุ้มเด็กอันนึงราคาแรงไม่น้อย ฉะนั้น ก่อนตัดสินใจจะซื้อ ลองชั่ง ตวง วัด ความจำเป็นดู เสียเงินทั้งทีต้องได้ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าคุ้มราคานะคะ