ลูกๆ ในวัยเบบี๋ดูเป็นวัยที่ยังไร้เดียงสา ต้องการความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา แต่คุณแม่รู้ไหมคะนั่นอาจจะเป็นเฉพาะด้านร่างกาย แต่ในเรื่องความรู้สึกนึกคิดแล้ว เบบี๋มีพัฒนาการไปไกลกว่าที่คุณแม่คิดเยอะค่ะ มาดูกันสิคะว่าลูกในวัยนี้เขาทำอะไรได้บ้าง
- จับผิดเป็น
นักวิจัยมหาวิทยาลัยมิสซูรี่ ค้นพบว่าเด็กอายุเพียง 10 เดือน เริ่มมีกระบวนการคิดเหมือนกับผู้ใหญ่แล้ว โดยเด็กจะใช้เวลาจับจ้องอยู่นานกับสิ่งที่เห็นเป็นครั้งแรกหรือสิ่งที่แปลกกว่าที่เคยเห็น แสดงว่าเด็กสามารถรับรู้ถึงความผิดปกติของสิ่งนั้นๆ ดังนั้นถ้ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น เด็กจะสามารถสังเกตได้อย่างแน่นอน
- รู้จักความเท่าเทียม
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตันพบว่า เด็กสามารถสังเกตเห็นความแตกต่างได้แล้ว โดยได้ทดลองให้เด็กวัยเบบี๋ดูวีดีโอที่มีการแจกนม สังเกตสีหน้าของเด็กเมื่อเห็นว่าคนหนึ่งได้รับของแจกมากกว่าอีกคน เด็กที่ได้ดูวีดีโอจะออกอาการไม่พอใจและจ้องมองอย่างไม่วางตาเลยทีเดียว
- จับจังหวะได้
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยบริกแฮมพบว่า เมื่อเด็กวัยเพียง 5 เดือนได้ฟังเพลงจังหวะช้าๆ จะมีอาการสงบนิ่ง แต่เมื่อได้ยินเสียงเพลงจังหวะเร็วๆ จะมีอาการคึกคัก ตบมือ แสดงว่าสามารถแยกเสียงเพลงจังหวะเร็วออกจากเสียงเพลงจังหวะช้าได้แล้ว
- อ่านริมฝีปากได้
มีการศึกษาวิธีการรับรู้ภาษาของเด็กทารกโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบียพบว่า ถ้าคุณแม่พูดภาษาที่สองให้ทารกฟังในขณะตั้งครรภ์ หลังคลอดทารกก็จะแสดงให้เห็นว่ารู้จักความแตกต่างระหว่างภาษาทั้งสองได้ด้วย ซึ่งคุณแม่ไม่จำเป็นต้องพูดออกเสียงให้ทารกฟัง เพราะสายตาของเด็กวัย 4-6เดือน สามารถอ่านริมฝีปากของคนที่พูดภาษาต่างกันแค่เพียงเปิดให้ทารกดูวีดีโอที่ปิดเสียงไว้ โดยการสังเกตสีหน้าท่าทางของทารกที่แสดงให้เห็นว่าตื่นเต้นและจดจำได้
- รู้จักแยกแยะเชื้อชาติ
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ พบว่า เด็กวัย 3 เดือน สามารถแยกแยะใบหน้าพ่อแม่ออกจากคนแปลกหน้าได้ แล้วยังแสดงความชื่นชอบใบหน้าของคนเชื้อชาติเดียวกับตัวเองได้ ซึ่งนั่นอาจเป็นการแยกแยะที่เกิดจากความคุ้นเคยที่เห็นพ่อแม่เป็นหลักนั่นเองค่ะ
- แยกแยะคนดีได้
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเยล พบว่าเด็กวัย 6 เดือนมีความรู้สึกเรื่องศีลธรรมแล้ว หลังได้สังเกตจากสีหน้าท่าทางของเด็กเมื่อทดลองให้เด็กดูละครหุ่น โดยหุ่นตัวที่ 1 พยายามปีนขึ้นเขาครั้งแล้วครั้งเล่าหุ่นตัวที่ 2 พยายามช่วยหุ่นตัวนั้นให้ปีนขึ้นไป และมีหุ่นตัวที่ 3 พยายามที่จะผลักหุ่นที่ 1 ให้ลงมา หลังจากดูละครหุ่นหลายครั้งพบว่าเด็กจะแสดงความชื่นชอบหุ่นฝ่ายดีมากกว่าฝ่ายไม่ดี
ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะคะว่าในขณะที่ลูกน้อยทำได้แค่นอนกลิ้งไปมาอยู่บนที่นอน แต่ระบบสมองและความคิดกลับไปไกลเกินกว่าที่เราจะคิดนัก
