แม้ประเทศไทยจะผ่านพ้นช่วงฤดูหนาวมาซักระยะหนึ่งแล้ว แต่ด้วยความแปรปรวนของสภาพอากาศในช่วงนี้ เราจึงนังต้องเผชิญกับลมหนาวอยู่เป็นระยะๆ หากลูกน้อยต้องสูญเสียความชุ่มชื้นของผิวจากลมหนาว หรือจากการสัมผัสกับอากาศแห้งก็จะทำให้ผิวเกิดรอยขีดข่วนเป็นแผลได้ง่ายขึ้น หรืออาจเกิดตุ่มแดง ๆ คล้ายกับลักษณะของห้อเลือดฟกช้ำตามมา เมื่อผ่านไป 2-3 วัน ตุ่มแดง ๆ จะแตกออก ทำให้ผิวหนังแห้งและลอกออกกลายเป็นแผลอักเสบได้ คุณแม่จึงควรต้องรู้ทันและปกป้องผิวของลูกไว้ก่อน ตามเคล็ดลับต่อนี้ค่ะ
อย่าอาบน้ำนาน
การอาบน้ำเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย แต่ในขณะเดียวกันก็ชำระล้างความชุ่มชื้นธรรมชาติหรือน้ำมันของผิวหนังก็ออกไปด้วยเช่นกัน ยิ่งอากาศเย็นก็ต้องอาบน้ำอุ่น ยิ่งทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นง่ายขึ้น ดังนั้นใช้เวลาอาบน้ำให้น้อยและรวดเร็ว อาจใช้เบบี้ออยผสมน้ำอาบก็เป็นการช่วยรักษาความชุ่มชื้นในผิวของลูกได้อีกวิธีหนึ่ง แต่ต้องระวังอุบัติเหตุจากากรลื่นด้วยนะคะ
ทาโลชั่นเป็นประจำ
หลังจากอาบน้ำแล้ว รีบเช็ดตัวลูกแล้วทาครีมหรือโลชั่นทันทีค่ะ เนื้อครีมจะเคลือบน้ำที่ยังอยู่ในผิวของลูกทำให้เกิดความชุ่มชื้น อาจจะเลือกโลชั่นที่เข้มข้นหน่อยความเข้มข้นขึ้น และทาบ่อยขึ้น เช่น ปกติทาวันละ 1 ครั้งหลังอาบน้ำ อาจจะเพิ่มอีกหนึ่งครั้งระหว่างวันก็ได้ค่ะ
ถุงมือ ถุงเท้าช่วยได้
อากาศเย็นทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดีส่งผลให้มือและเท้าเย็น การใส่ถุงมือและถุงเท้านอกจากจะช่วยป้องกันนิ้วมือและเท้าจากการสัมผัสลมหนาวโดยตรง และยังทำให้ร่างกายอบอุ่นด้วยค่ะ
หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
หากผิวของลูกมีแนวโน้มว่าจะแพ้ง่าย พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมน้ำหอม ไม่ว่าจะเป็นสบู่ แชมพู โลชั่นทาผิว หรือแม้แต่น้ำยาซัก น้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีกลิ่นฉุนก็ควรเลี่ยงค่ะ
ดื่มน้ำเยอะ ๆ
คุณแม่ควรให้ลูกดื่มน้ำให้มากเพื่อช่วยรักษาระดับน้ำและความชุ่มชื่นในร่างกาย แต่ถ้าลูกคุณอายุยังไม่ถัง 6 เดือนก็ควรให้กินนมแม่อย่างเดียวไปก่อน เพราะในนมแม่มีน้ำเพียงพอต่อลูกอยู่แล้วค่ะ
ช่วงนี้อากาศยังเย็นอยู่ นอกจากจะดูแลสุขภาพคุณลูกแล้วคุณแม่เองก็อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเงอให้แข็งแรงเสมอในช่วงดูแลลูกนะคะ