เข้าหน้าฝนทีไร ถ้าดูแลตัวเองไม่ดีพอ เชื่อว่าหลายคนคงเคยมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล จากโรคหวัดกันบ้างไม่มากก็น้อย และเพื่อป้องกันโรคหวัดนอกจากการดูแลตัวเองโดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำร่างกายให้อบอุ่น หลีกเลี่ยงการตากฝน และพักผ่อนให้เพียงพอแล้ว อีกหนึ่งเคล็ดลับที่หลายคนคงเคยได้ยินผ่านหูผ่านตามาบ้างก็คือ “การรับประทานวิตามินซี”
“วิตามินซี”
หรือ กรดแอสคอร์บิก (ascorbic acid) เป็นวิตามินชนิดละลายน้ำเป็นหนึ่งในวิตามินสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยอดนิยมอันดับต้นๆ วิตามินซีสามารถรักษาและป้องกันโรคหวัดได้หรือไม่ คงเป็นอีกหนึ่งคำถามสำคัญเกี่ยวกับวิตามินซีที่หลายคนอยากรู้คำตอบ และเหล่านี้คือความจริงเกี่ยวกับวิตามินซีที่คุณอาจยังไม่รู้
- วิตามินซียังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ หรือ antioxidant มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นภายในร่างกายรวมถึงมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมและการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกาย
- การรับประทานวิตามินซีเป็นประจำทุกวันไม่สามารถป้องกันหวัดได้ และไม่มีผลลดความเสี่ยงในการเป็นหวัด ยกเว้นผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ จะสามารถลดความเสี่ยงในการเป็นหวัดได้ถึงร้อยละ50
- การรับประทานวิตามินซีเป็นประจำทุกวันจะช่วยลดความรุนแรงและระยะเวลาในการเป็นหวัดได้
- ขนาดวิตามินซีในการรับประทานเพื่อลดความรุนแรงและระยะเวลาการเป็นหวัดคือ 1-3 กรัมต่อวัน
- ผลิตภัณฑ์วิตามินซีรูปแบบที่นิยมใช้สำหรับลดความรุนแรงหรือระยะเวลาในการเป็นหวัด คือรูปแบบเม็ดสำหรับรับประทาน แคปซูล และเม็ดฟู่ ที่มีปริมาณวิตามินซีขนาด 500 และ 1,000 มิลลิกรัม
- หากเป็นหวัดแล้วจึงเริ่มรับประทานวิตามินซี จะไม่สามารถช่วยลดความรุนแรงหรือระยะเวลาในการเป็นหวัดได้เลย
- ควรทานวิตามินซี หลังอาหารเช้า (ประมาณ 9-10 โมง) เพราะร่างกายจะดูดซึมสารอาหารต่างๆได้ดีที่สุดช่วงเวลานี้และควรควรทานวิตามินซี หลังอาหารเพราะวิตามินซี ที่ร่างกายดึงไปใช้ได้นั้นจะต้องมีตัวนำพา เช่น อาหารหากทานวิตามินซีตอนท้องว่าง ร่างกายจะไม่มีตัวนำพาหรือตัวให้ดูดซึม