หากจะกล่าวว่า “เครื่องซักผ้า” เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคก็คงไม่ผิดนะ เพราะเสื้อผ้าเป็นของสัมผัสกับตัวเราย่อมต้องมีสิ่งสกปรกทั้งขี้ไคลและเชื้อโรคต่างๆ ติดมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเป็นเสื้อผ้าคนป่วยยิ่งแล้วใหญ่ เพราะผ่านสมรภูมิทั้งไอ จาม และคราบน้ำเลือด น้ำเหลือง และสารคัดหลั่งในร่างกายจะติดมากับซอกเล็กซอกน้อยของใยผ้าด้วย!
การล้างเครื่องซักผ้าจึงเป็นสุขอนามัยที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณต้องการที่จะหลีกเลี่ยงกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ของเสื้อผ้าเมื่อสวมใส่ ซึ่งสาเหตุหลักส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มาจากการสะสมของผงซักฟอกที่ตกค้างอยู่ภายในเครื่อง หรืออาจจะมาจากการปนเปื้อนจากเชื้อราในเส้นใยของผ้าที่ซักรวมถึงป้องกันตัวจากเชื้อโรคต่างๆ ที่อาจตกค้างอยู่ในเครื่องซักผ้า
วิธีจัดการแหล่งเชื้อโรคในเครื่องซักผ้า ทำได้โดย…
- เวลาที่ใช้เครื่องซักผ้าเสร็จแล้วควรจะเปิดฝาเครื่อง ซักผ้า และช่องที่ใส่ผงซักฟอกทิ้งเอาไว้เพื่อให้ปราศจากความชื้น และไม่กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และแบคทีเรียต่างๆ อีกต่อไป
- ควรดึงช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มออกมาจากตัวเครื่องบ้างเป็นครั้งคราว เพื่อตรวจสอบดูว่าผงซักฟอกตกค้างอยู่ข้างในหรือไม่ ถ้าพบก็ให้ทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า เพราะผงซักฟอกเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของแบคทีเรีย และเชื้อราเลยทีเดียว
- ในการทำความสะอาดช่องใส่ผงซักฟอกนั้น ควรหมั่นทำความสะอาดทุกๆ สองหรือสามเดือนเพื่อป้องกันเชื้อราหรือสารตกค้างจากผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่ม
- ทำความสะอาดตัวกรองผ้าทุกๆ สัปดาห์โดยใช้แปรงกวาดฝุ่นและสิ่งสกปรกออกให้หมดก่อน จากนั้นนำมาล้างทำความสะอาดอีกรอบ ทั้งนี้ก่อนที่จะเปิดช่องกรองควรเตรียมผ้าขนหนูเพื่อรองรับน้ำที่ขังอยู่ภายในช่องกรองที่จะล้นออกมา
- ตรวจสอบขอบยางของประตูเปิดปิด (ปะเก็นประตู) เช็คตรงจุดนี้ให้ดีและทำความสะอาดให้ปราศจากสิ่งสกปรก เนื่องจากน้ำซักผ้ามักจะขังอยู่ทางด้านในระหว่างขอบยาง ซึ่งเมื่อหมักหมมนานวันอาจทำให้เกิดเชื้อราขึ้นได้ง่าย
รู้แล้วก็อย่าลืมกลับไปดูแลความสะอาดเครื่องซักผ้าที่บ้านกันนะคะ 🙂