แม้จะมีการเตือนหรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายจากการรับประทานเนื้อสัตว์ไม่สุกหรือกึ่งดิบกึ่งสุข แต่ด้วยความไม่ระวังหรือประมาทเพราะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวก็ทำให้หลายคนละเลย ล่าสุดมีการรายงานข่าวพบผู้ป่วยเข้ารับการรักษาด้วย “โรคทริคิโนสิส” งานนี้ต้องกันมาใส่ใจการกินแล้วล่ะค่ะ ถ้าไม่อยากป่วย!!

ข้อมูลจาก นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค ระบุว่า

โรคพยาธิทริคิเนลโลสิส (Trichinellosis) หรือ โรคทริคิโนสิส (Trichinosis) พบมากในสัตว์เลี้ยง เช่น หมู สุนัข แมว ม้า หนู และสัตว์ป่าชนิดต่างๆ เช่น หมี หมูป่า เป็นต้น ซึ่งจะติดต่อจากสัตว์สู่คน โดยการรับประทานเนื้อสัตว์ที่มีพยาธิทริคิเนลล่า สไปราลิส (Trichinella Spiralis) ในระยะติดต่อที่ปรุงไม่สุกเข้าไป

พยาธิพยาธิทริคิเนลล่า สไปราลิสนี้ สามารถเข้าไปอยู่ในกล้ามเนื้อต่างๆ ของร่างกาย เช่น กล้ามเนื้อกระบังลม กล้ามเนื้อตา กล้ามเนื้อระหว่างซี่โครง ลิ้น ท้อง แขน ไหล่ และ น่อง เป็นต้น และอาศัยอยู่ได้นานหลายเดือน อย่างไรก็ตาม โรคนี้จะไม่ติดต่อจากคนสู่คน

เมื่อรับประทานเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ ประมาณ 1 สัปดาห์ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเดิน บางรายอาจมีอาการอ่อนเพลีย อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากอาทิตย์แรกผ่านไป ตัวอ่อนของพยาธิจะเข้าไปอยู่ในกล้ามเนื้อลายของผู้ป่วย

ทำให้มีอาการไข้สูง หน้าบวม หนังตาบวม เยื่อบุตาอักเสบเเละมีเลือดออกใต้หนังตา ตาพร่า อ่อนเพลียมาก ปวดกล้ามเนื้อเเละกดเจ็บ การเคลื่อนไหวแขนขาทำได้ลำบาก การพูด หายใจ กลืน เเละเคี้ยวอาหารได้ลำบาก ขึ้นอยู่กับพยาธิเข้าไปอยู่ที่ส่วนใดของร่างกาย ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์

การป้องกันที่ดีที่สุด

การรับประทานผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุก ความร้อน และระยะเวลาที่เหมาะสม

อย่างน้อย 80 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 5 นาที จะสามารถทำลายตัวอ่อนของพยาธิได้ และสังเกตดูสีเนื้อให้เปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีเทาทุกส่วน จึงถือว่าปลอดภัยต่อการบริโภค และทำความสะอาดเครื่องมือในการปรุง หรือประกอบอาหารด้วย

ที่สำคัญ ควรเลือกซื้อเนื้อหมูจากแหล่งที่ไว้ใจได้ เช่น ตลาดสด หรือห้างสรรพสินค้า ซึ่งผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจากโรงฆ่าสัตว์ ไม่ซื้อเนื้อหมูที่มีกลิ่นคาว สีคล้ำ