ใครที่อยากกำจัด “ขนหน้าแข้ง” เชื่อว่าวิธียอดฮิตอันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้นการแว็กซ์ เพราะใช้เวลาไม่นาน ราคาไม่แพง ทั้งยังไม่ต้องกังวลว่าจะโดนมีดบาดเหมือนการโกน แต่ล่าสุดกลับมีเหตุการณ์ชวนสยอง กับกรณีสาวแว็กซ์ขนหน้าแข้ง แต่ปรากฏว่าแทนที่ขาจะเรียบเนียนไร้ขน กลับมีตุ่มหนองขึ้นเต็มขา!!

เมื่อไม่นานนี้โลกออนไลน์แห่แชร์ภาพหน้าแข้งที่มีตุ่มหนองเล็กๆ ขึ้นเต็มทั้ง 2 ข้าง โดยต้นตอของภาพมาจากเรื่องเล่าของผู้ใช้เฟซบุ๊ก @Wasunan Sankla ระบุว่า

น้องสาวไปแว็กซ์ขนหน้าแข้งที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แล้วเกิดตุ่มหนองขึ้นเต็มขา เมื่อไปพบแพทย์ก็พบว่าเป็นอาการรูขุมขนอักเสบติดเชื้อแบคทีเรีย

จากนั้นก็ได้ไปพบเจ้าของร้านดังกล่าวก็บอกว่า

“เกิดจากการที่ลูกน้องซึ่งมีหน้าที่สครับ มาแว็กซ์ให้แรงเกินไป”

ซึ่งทางร้านพร้อมจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด แต่สุดท้ายแล้วกลับจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เพียง 1,300 บาท ทั้งยังไม่เคยขอโทษทำให้เสียความรู้สึกมาก

จากกรณีดังกล่าวถือเป็นอุทาหรณ์ให้คนที่คิดเข้ารับบริการเสริมความงามได้เป็นอย่างดี เพราะการกระทำที่ฝืนธรรมชาติย่อมมาพร้อมความเสี่ยง โดย รศ.พญ.พรทิพย์ ภูวบัณฑิตสิน อาจารย์สาขาตจวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยให้ความรู้เกี่ยวกับการกำจัดขน สรุปใจความสำคัญได้ว่า…

การแว็กซ์ขนมี 2 แบบคือ แบบร้อน ใช้ขี้ผึ้งอุ่นให้ร้อนและทาลงไป จากนั้นใช้แผ่นแว็กซ์กระชากขนออกมา กรณีนี้ถ้าผิวบอบบางอาจเกิดการพองได้ หรือถ้าผิวหนังอักเสบอาจทำให้ผิวคล้ำ คือ ถ้าความร้อนมากเกินไป อาจเกิดรอยไหม้ และดำ ส่วนการแว็กซ์เย็นจะเป็นเหมือนกาวทาลงไป และกระชากขนออกเช่นกัน กรณีนี้อาจทำให้เกิดการแห้งได้ง่าย

ปกติผิวหนังของคนเราจะมีหนังชั้นขี้ไคลคอยปกคลุมไม่ให้เชื้อโรคเข้าไปได้ การแว็กซ์ขนนอกจากจะรู้สึกเจ็บแล้ว อาจทำให้หนังชั้นขี้ไคลหลุดออกไป ทำให้เกิดการอับเสบตามรูขุมขน และเกิดการติดเชื้อตามมาได้ ส่วนผลข้างเคียงอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น คือ การเกิดขนคุด กลายเป็นตุ่มบริเวณที่แว็กซ์ เพราะขนไม่สามารถทะลุออกมาได้ ส่งผลให้เกิดความรำคาญ เนื่องจากบริเวณขนคุดจะคลำเป็นก้อน เกิดการอักเสบเช่นกัน

หวังว่าเคสนี้คงจะช่วยดึงสติให้ผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อยนะคะ ความอยากสวยอยากหล่อเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ต้องมาพร้อมสติ ไม่อย่างนั้นแทนที่จะดูดีขึ้น อาจเสียทั้งเงินในการรักษา แถมยังเสียโฉมด้วยค่ะ