สร้างความสลดใจได้ไม่น้อยกับข่าวชายและหญิงรวม 3 ราย นอนเสียชีวิตอยู่ในรถแท็กซี่ที่จอดอยู่ภายในปั๊มแก๊สแห่งหนึ่ง คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากการที่ผู้ตายนอนหลับแล้วติดเครื่องไว้เพื่อเปิดแอร์ แต่ระหว่างนั้นอาจมีไอเสียจากเครื่องยนต์ รั่วเข้าไปในห้องโดยสาร เมื่อสูดสารพิษเข้าไปจึงทำให้ทั้งหมดเสียชีวิต ถือเป็นเหตุการณ์ใกล้ตัวที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน
แม้เหตุการณ์รูปการนี้จะผ่านหูผ่านตากันมาให้ได้ยินได้ฟังกันอยู่เรื่อย ๆ แต่หลายคนก็ยังไม่ตระหนักถึงอันตรายที่อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต หากสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์นอนในรถโดย “ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์”(CO) นั้นเป็นก๊าซที่ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ปะปนออกมาจากท่อไอเสียรถยนต์ ที่มีทั้งเขม่า คาร์บอนไดออกไซด์ และอื่นๆ เมื่อร่างกายได้รับสารนี้เข้าไปมากๆ จะทำให้ฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงที่อยู่ในร่างกายลำเลียงออกซิเจนไปสู่เซลล์ต่างๆ ได้น้อยขึ้น ทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานผิดปกตินั่นเอง ที่น่ากลัวก็คือร่ายกายเราดูดซับคาร์บอนมอนอกไซด์ได้ดีและเร็วกว่าออกซิเจนดีเสียอีก
อันตรายจากการสตาร์ทรถแล้วเปิดแอร์นอนไปด้วยนั้นถือเป็นภัยใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม เพราะการเปิดแอร์พร้อมสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้และปิดกระจกรถมิดชิดทั้ง 4 ด้านนั้น จะทำให้ระบบแอร์ของรถยนต์ซึ่งจะต้องดูดอากาศจากภายนอกเข้ามาหมุนเวียนภายในรถ จะดูดเอาควันจากท่อไอเสียรถยนต์เข้ามาเมื่อเรานอนหลับอยู่เราก็จะสูดดมก๊าซเหล่านี้เข้าไปด้วย
เมื่อปริมาณก๊าซสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จะรู้สึกง่วงมาก เลือดไปเลี้ยงสมองได้น้อยลง นอนหลับลึกมากขึ้น และจะส่งผลต่อร่างกายของเราโดยทำให้เราค่อยๆ หมดสติจนอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตไปในที่สุด
สำหรับอาการเมื่อร่างกายได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์นั้นขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้น ซึ่งมีตั้งแต่ปวดศีรษะเล็กน้อยอ่อนเพลียคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรงเป็นลมหัวใจเต้นเร็วขึ้นผิดปกติ และเริ่มเต้นผิดจังหวะ อาจถึงขั้นหมดสติไปจนถึงเสียชีวิตฉะนั้น หากจำเป็นต้องจอดรถแช่ไว้นานๆ อย่าเปิดเครื่อง เปิดแอร์ และปิดหน้าต่างเด็ดขาด ให้ดับเครื่องยนต์รถ และแง้มกระจกลงเล็กน้อยเพื่อให้เกิดการระบายอากาศภายในรถ ถ้าอากาศร้อนมาก แนะนำให้ปิดเครื่อง จอดรถ แล้วหาที่รอที่อื่นจะปลอดภัยกว่า