ดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญที่ค่อนข้างบอบบาง มีสิ่งที่กระทบทำให้เกิดการเสื่อมภาพได้ง่าย สำหรับช่วงฤดูร้อนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งภัยเงียบที่ส่งผลต่อสุขภาพดวงตาโดยเฉพาะการได้รับรังสียูวีในแสงแดดโดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน ก็อาจส่งผลร้ายต่อดวงตาได้ ไม่ว่าจะเป็น มีอาการแสบตา แพ้แสง ตาแดงกระจกตาอักเสบ ไปจนถึงต้อเนื้อ ต้อลมหรือต้อกระจก
รังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวีในแสงแดด มีทั้งคุณและโทษต่อสุขภาพ ช่วยสังเคราะห์วิตามินดีที่ผิวหนังและมีส่วนสำคัญในการสร้างเสริมเนื้อเยื่อกระดูก
ผลเสียคือทำอันตรายต่อผิวหนัง อาจไหม้เกรียม เหี่ยวย่น เป็นอันตรายต่อดวงตา หากได้รับรังสียูวีโดยที่ไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน โดยผลกระทบระยะสั้นที่เกิดขึ้นคือกระจกตาอักเสบ มีอาการแสบตา น้ำตาไหล แพ้แสง ตาแดง ระยะยาวเช่น ต้อเนื้อ ต้อลมหรือต้อกระจก
เคล็ดลับถนอม “ดวงตา” ในช่วงฤดูร้อน
- ผู้ที่ต้องทำงานกลางแจ้ง เช่น เกษตรกร ชาวสวน ช่างก่อสร้าง ชาวประมง ผู้ขับขี่รถในช่วงแดดจัด รวมทั้งผู้ที่อาศัยใกล้แม่น้ำ ทะเลมีแสงแดดสะท้อนจากผิวน้ำ ควรหลีกเลี่ยงอยู่กลางแดด โดยเฉพาะในช่วงเวลา 10.00 น.-14.00 น. ซึ่งมีปริมาณรังสียูวีจะเข้มข้นและจะเข้มข้นมากที่สุดในช่วงเที่ยงวัน
- ถนอมสายตาด้วยการสวมหมวกที่มีปีกยื่นออกมาข้างหน้า
- ถนอมสายตาด้วยการสวมแว่นกันแดด โดยเลือกใช้แว่นที่มีคุณภาพ สามารถกรองรังสีอัลตราไวโอเลตได้ทั้งนี้ความเข้มของสีกระจกไม่ได้เป็นตัวบอกว่าจะสามารถกันยูวีหรือความเข้มของแสงได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้นต้องเลือกซื้อแว่นกันแดดที่มีมาตรฐานสำหรับแว่นที่ไร้คุณภาพนั้นนอกจากจะไม่สามารถกันรังสียูวีได้แล้วยิ่งมีสีเข้มหรือสีมืดๆ จะยิ่งทำให้ม่านตาขยาย ทำให้แสงยูวีเข้าสู่ดวงตาได้มากกว่าเดิม สำหรับคนที่ใส่แว่นสายตาเป็นประจำอยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นการป้องกันรังสีได้ในระดับหนึ่ง
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ร้อนจัด อากาศแห้ง ลมแรง เพราะทำให้น้ำหล่อเลี้ยงลูกตาระเหยง่ายกว่าปกติ อาจกะพริบตาเป็นระยะๆ เมื่อรู้สึกไม่สบายตา หรือใช้น้ำตาเทียมเพื่อลดภาวะตาแห้งหรือระคายเคืองตา
นอกจากนี้ ควรทาผลิตภัณฑ์กันแดด ในทุกๆจุดที่ไม่ได้อยู่ใต้เสื้อผ้าอย่างน้อย 15 – 30 นาทีก่อนออกไปเจอแสงแดด แม้ว่าจะเป็นวันที่มีเมฆมากก็ควรทาและทาทุกๆ 2 ชั่วโมง ตามคำแนะนำบนฉลากหรือตามที่ต้องการ โดยเฉพาะหลังจากการว่ายน้ำหรือเหงื่อออก สวมใส่เสื้อผ้าป้องกัน เป็นต้น