ช่วงนี้หลายจังหวัดในบ้านเราอากาศหนาวเย็น ประกอบกับมีวันหยุดยาวแทบทุกสัปดาห์ นักท่องเที่ยวจึงนิยมเดินทางไปสัมผัสอากาศหนาวเย็นพร้อมชมความงามธรรมชาติหนึ่งในภัยสุขภาพที่ต้องระวัง คือ การใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส โดยเฉพาะตามที่พัก หรือรีสอร์ตต่างๆ ที่ใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส!!
ข้อมูลสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา (ปี 2551 – 2559) พบว่า…
มีเหตุการณ์การป่วยและเสียชีวิตขณะอาบน้ำในห้องน้ำที่ใช้เครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้ระบบแก๊สทั้งสิ้น 16 เหตุการณ์ มีผู้ป่วย 27 ราย และเสียชีวิต 6 ราย เกิดเหตุในช่วงเดือนธันวาคม ถึงมกราคม ของทุกปี
ซึ่งมีหลายเหตุการณ์ที่มีการอาบน้ำต่อเนื่องกันหลายคน และผู้ป่วยหรือเสียชีวิตเป็นผู้ที่อาบน้ำในลำดับหลังๆ จากการสอบสวนพบว่า เกิดจากการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นที่ไม่มีมาตรฐาน (มอก.) และมีการติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐานไม่เหมาะสมกับสภาพและขนาดห้องน้ำ มีช่องระบายอากาศขนาดเล็ก ไม่มีหรือไม่เปิดพัดลมดูดอากาศ
สาเหตุที่ทำให้ผู้อาบน้ำป่วยและเสียชีวิต เนื่องจากเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊สเผาไหม้ออกซิเจนเพื่อทำความร้อน ขณะเดียวกันก็สร้างคาร์บอนไดออกไซด์และคาร์บอนมอนอกไซด์ขึ้น หากห้องน้ำมีระบบการระบายอากาศที่ไม่ดี ก็จะเกิดการสะสมของแก๊สพิษเหล่านี้ขึ้น และการสูดดมแก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไป ทำให้ผู้ป่วยมีอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ มึนงง หน้ามืด หายใจลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน ซึม หมดสติ และอาจเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ หอบหืด ถุงลมโป่งพอง ความดันโลหิตสูง
คำแนะนำหากต้องใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส
- ผู้เข้าพักควรสังเกตอาการที่อาจเกิดขึ้นจากการได้รับแก๊สระหว่างอาบน้ำ เช่น วิงเวียน หน้ามืด หายใจลำบาก หรือหากได้กลิ่นแก๊สผิดปกติ ควรรีบเปิดประตู ปิดเครื่องทำน้ำอุ่น และออกจากห้องน้ำทันที
- หากพบว่าในห้องน้ำไม่มีเครื่องระบายอากาศ ควรเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ 15 นาที เพื่อให้อากาศถ่ายเท ก่อนที่คนอื่นจะอาบน้ำต่อ และหากมีคนอาบน้ำนานผิดปกติให้รีบตรวจสอบเพราะอาจหมดสติในห้องน้ำ
ย้ำอีกครั้งว่า.. คนที่มีโรคประจำตัวควรระมัดระวังในการใช้ห้องน้ำที่มีเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊สมากเป็นพิเศษ เพราะหากได้รับแก๊สดังกล่าวจะทำให้เสียชีวิตได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่นๆ