ผลพวงจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ยังคงสร้างปัญหาตามมามากมายโดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ ต้องระวังกันอย่างมาก เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่ถูกมองว่าเล็กน้อย อาจนำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บได้อย่างที่คาดไม่ถึง อย่างเช่น การนำที่นอนซึ่งเปียกน้ำท่วมกลับมาใช้ใหม่ แม้นำมาตากแดดจนแห้งแล้ว แต่ความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ ก็ยังคงอยู่
หากที่นอนเปียกน้ำแล้ว ไม่ควรนำมาใช้อีก เนื่องจากที่นอนมีความหนา น้ำจะชุ่มอยู่ในวัสดุที่ใช้ทำที่นอนและจะมีความชื้นสูงแม้ว่าจะนำไปตากแดดแล้วก็ตาม
หากนำมาใช้ซ้ำอีกอาจทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจได้ง่าย โดยเฉพาะไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และโรคปอดบวม หากไม่สามารถซื้อที่นอนใหม่ได้ ก็ควรใช้วัสดุอื่นปูนอนแทน เช่น เสื่อ หรือผ้าหนาๆ เพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายอย่างเพียงพอ
นอกจากที่นอนแล้วต้องระวังเรื่องการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ถูกน้ำท่วมด้วย ควรทำความสะอาจอย่างถูกวิธีก่อนนำมาใช้ โดยเฟอร์นิเจอร์ผ้าจะเปียกและสะสมความชื้นสูง แนะนำให้เปลี่ยนใหม่ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ หากไม่ชื้นมากให้ซักล้างด้วยแปรงขัดล้างทำความสะอาด แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดน้ำเพื่อดูดน้ำกลับ
สำหรับอาการของโรคไข้หวัด จะเริ่มด้วยอาการครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้เล็กน้อย คัดจมูก ไอ จาม มีน้ำมูกใสๆ ส่วนไข้หวัดใหญ่ อาการเด่น ๆ ได้แก่ มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ไอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หากเริ่มมีอาการเหล่านี้ ควรนอนพักผ่อนให้มากๆ ดื่มน้ำบ่อยๆ หากตัวร้อนควรใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตัว หรือกินยาลดไข้ หากดูแลตัวเองด้วยวิธีเหล่านี้โดยมากอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 2 – 7 วัน
แต่หากมีอาการไอมากขึ้นหรือมีไข้สูงติดต่อกันเกิน 2 วัน หรือมีอาการเปลี่ยนแปลงหลังมีไข้ เช่น หายใจเร็วขึ้น มีอาการหอบ หายใจแรงจนชายโครงบุ๋ม หรือหายใจมีเสียงดัง แสดงว่า อาจเกิดโรคแทรกซ้อน ที่สำคัญคือ โรคปอดบวม ซึ่งมีความรุนแรงสูง ต้องรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที
สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังเรื่องสุขภาพเป็นพิเศษ คือ เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เป็นกลุ่มที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำกว่าคนทั่วไป อาจเสี่ยงเกิดการเจ็บป่วยง่ายขึ้น เนื่องจากอากาศมีความชื้นสูง