เป็นที่ฮือฮากันมากกับการเผยแพร่ข้อมูลทางสื่อออนไลน์ต่างๆ ว่าการทานผลไม้บางอย่างคู่กันจะก่อโรคได้ เช่น การกินกีวี่กับแอปเปิ้ลคู่กัน จะทำให้เกิดโรคหัวใจ งานนี้จะชัวร์หรือมั่วนิ่มเรามีคำตอบ
ไม่เคยมีการศึกษาใดๆ ที่พบว่าการกินผลไม้จะเกิดโทษ การกินผลไม้อาจมีข้อควรระวังแค่เฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวาน แต่โดยรวมผลไม้ถือว่ามีประโยชน์มาก
นอกจากนี้ ยังไม่มีการศึกษาใดที่ห้ามการกินผลไม้บางชนิดพร้อมกัน ซึ่งอาจจะมีปัญหาบ้างที่ระบบการย่อยในบางคน จะไม่รับผลไม้บางประเภทแล้วทำให้เกิดการย่อยยาก เช่น บางคนทานแอปเปิ้ล แล้วเกิดแก๊สในกระเพาะอาหารบ้าง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นเฉพาะบางคนเท่านั้น และไม่ได้ถือว่าเป็นโทษร้ายแรงแต่อย่างใด
ปริมาณผลไม้ที่ควรรับประทานต่อวันอยู่ที่ 400 กรัม แต่พบว่าคนไทยยังกินเพียงแค่ 100 กรัมเท่านั้น ซึ่งในผลไม้มีทั้งน้ำตาล วิตามิน แร่ธาตุ โดยเฉพาะ ใยอาหารที่มีสูงกว่าในผัก และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดมะเร็ง
การกินผลไม้ถือเป็นสิ่งที่จะช่วยป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้เป็นอย่างดี เพราะพบว่าคนไทยยังบริโภคโพแทสเซียมไม่เพียงพอ จากปริมาณที่ควรได้รับต่อวันอยู่ที่ 3,500-4,000 มิลลิกรัม แต่คนไทยยังได้รับอยู่ที่ 1,000-2,000 มิลลิกรัมต่อวันเท่านั้น ซึ่งพบว่าโพแทสเซียมจะมีอยู่ในผลไม้สูง โดยโพแทสเซียมจะช่วยลดความดันโลหิตและป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูงได้เป็นอย่างดี
กีวี (Kiwifruit) อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด อาทิ วิตามินเอ ซี อี เค บี1 บี2 บี3 บี6 บี9 แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม สังกะสี แมงกานีส เป็นต้น นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยโอเมก้า-3 อีกด้วย ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นอย่างมากสำหรับร่างกาย เพราะร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ โดยกีวีน้ำหนัก 60 กรัมจะให้พลังงานเพียง 25 แคลอรี่เท่านั้น
แอปเปิ้ล (Apple) อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีความสำคัญอย่างมากต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ บี1 บี2 บี3 บี5 บี6 ซี กรดโฟลิกแคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี เหล็ก และยังประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และ โปรตีน อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากมาย ที่สำคัญแม้แอปเปิ้ลจะมีน้ำตาลแต่ร่างกายก็สามารถดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ได้ภายในสิบนาที