จริงหรือ… “ขิงแก่ต้ม” ดื่มต่อเนื่องแก้นิ้วล็อกได้!

0

ทำเอานักแชทผู้เสพติดการเล่นมือถือจนมีอาการนิ้วล็อกรู้สึกมีความหวังกันถ้วนหน้า กับบทความซึ่งแชร์กันต่อๆ มาบนโซเชียล ที่แนะนำให้นำขิงแก่หันแว่นนำไปต้มน้ำจนเดือดแล้วเคี่ยว ดื่มหลังอาหารเช้าเย็นและก่อนนอน จะช่วยแก้นิ้วล็อกหรือปลายนิ้วมือชาดีขึ้นและหายได้

ว่าแต่บทความที่ว่าชัวร์หรือมั่วนิ่มกันนะ?

สูตรดังกล่าว คือ ให้นำ “ขิงแก่” จำนวน 2 ขีดล้างน้ำให้สะอาดแล้วหั่นเป็นแว่น ต้มกับน้ำ 1 ลิตรจนเดือดเคี่ยวให้เหลือครึ่งลิตร ดื่มให้หมดในแต่ละวันหลังอาหารเช้าเย็นและก่อนนอน จะช่วยให้อาการนิ้วล็อก หรือปลายนิ้วมือชาดีขึ้นและหายได้ ควรทำควบคู่กันกับการนำแผ่นขนมปังชุบน้ำส้มสายชูกลั่น 5 เปอร์เซ็นต์ หรือหุ้มบริเวณนิ้วที่เกิดอาการล็อกวันละ 1 ครั้งละ 1 ชั่วโมง ทำทุกวันนิ้วล็อกจะหายได้

แท้จริงแล้ว ขิงแก่ต้มดื่มอย่างเดียว ไม่สามารถรักษาอาการนิ้วล็อกได้

ginger-to-boil-continuous-drinking-can-treat-trigger-finger

แต่ในแพทย์แผนไทยมีการใช้ขิงแก่มารักษาร่วมกับการนวดประคบ แช่สมุนไพร และมีการรับประทานยาสมุนไพร ที่สำคัญ ไม่แนะนำให้รับประทานขิงติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดไฟร้อนในร่างกาย ความดันโลหิตสูง เป็นไข้ หรือผื่นแพ้

อาการนิ้วล็อกสามารถป้องกันได้โดยเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ออกแรงทำให้กล้ามเนื้อนิ้วหดหรืองออยู่นานๆ ส่วนวิธีรักษาอาการนิ้วล็อคนั้นมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการที่เกิดขึ้น ได้แก่ การบำบัดโดยไม่ต้องใช้ยา (เช่น พักการใช้งานมืออย่างน้อย 3-4 สัปดาห์, ประคบร้อนหรือเย็น, ใส่อุปกรณ์สำหรับดามนิ้ว, ออกกำลังกายยืดเส้น), การรักษาด้วยยา, การฉีดสารสเตียรอยด์ และการผ่าตัด

แม้ขิงจะมีประโยชน์ โดยมีสรรพคุณ อาทิ ช่วยลดอาการท้องอืด, ช่วยบรรเทาอาการไมเกรน, ช่วยป้องกันมะเร็งเนื่องจากช่วยกระตุ้นเอนไซม์กลูตาไธโน-เอส-ทรานสเฟอรเรส ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ, ช่วยลดอาการอักเสบในลำไส้ใหญ่, ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้, ช่วยลดน้ำตาลในเลือด โดยเฉพาะขิงแก่ซึ่งมีสรรพคุณทางยาที่มากกว่าขิงอ่อน และยังมีใยอาหารมากขึ้นตามไปด้วย

แต่เนื่องจากขิงมีรสเผ็ด มีคุณสมบัติอุ่น จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีความร้อนภายในร่างกายอยู่แล้ว เช่น ผู้ที่เหงื่อออกมาก เหงื่อออกเวลากลางคืน ตาแดง นอกจากนี้ ขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ถ้าหากรับประทานเข้าไปในปริมาณที่มากก็จะสามารถเยื่อบุภายในช่องปากเกิดการอักเสบจนเป็นร้อนในได้ อีกทั้งยังมีฤทธิ์ยับยั้งการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดไหลไม่หยุดอีกด้วย

ใครที่กำลังคิดจะใช้ขิงช่วยบรรเทาอาการของโรคต่างๆ ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดนะคะ แนะนำให้รับประทานแต่พอดีด้วยความระมัดระวัง ทางทีดีหากเจ็บป่วยควรไปพบแพทย์ดีกว่านะคะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *