กลายเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้สาวๆ หลายคนประสบพบเจอ กับการที่ใบหน้าเรืองแสงเมื่อกระทบกับแสงแบล็กไลต์ ซึ่งบางส่วนก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ แต่บางคนก็รู้สึกกังวลเพราะกลัวว่าเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ใช้อยู่มีส่วนผสมของสารอันตรายหรือเปล่า เพื่อความสบายใจเราไปตามล่าหาคำตอบกันค่ะ
กรณีการแชร์เรื่องราวผ่านโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับการใช้เครื่องสำอางแล้วผิวเกิดการเรืองแสงเมื่อกระทบกับแสงแบล็กไลต์ (Black Light) พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า…
ตามปกติในครีมกันแดดแต่ละตัวจะผสมสารฟิสิคอล และ เคมีคอล ซึ่งหากใส่สารฟิสิคอลจำนวนมากเมื่อทาแล้วผิวจะขาววอก สารตัวนี้จะช่วยสะท้อนแสงแดดออกไปจากผิวของเรา
อีกกรณีคือ ขณะนี้เครื่องสำอาง เช่น คอนซีลเลอร์จะผสมสารไททาเนียมไดออกไซด์ ทำให้แสงสะท้อนออก ให้ผิวหน้าดูนวลผ่องเช่นกัน หากอยู่ในแสงปกติจะดูหน้าขาวนวล แต่สารพวกนี้เมื่อเจอแสงแบล็กไลต์ทำให้เกิดการเรืองแสงได้ อย่างไรก็ตาม สารพวกนี้ยังไม่พบว่าก่อให้เกิดอันตรายใดๆ สามารถใช้ได้ตามปกติ
ทั้งนี้ ทางอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ได้ผลิตคิดค้นผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดด ชนิดต่างๆ ขึ้นมากมาย แบ่งหลักๆ ได้ 2 ชนิด คือ กลุ่มดูดกลืนรังสี (chemical UV filter) และกลุ่มสะท้อนรังสี (physical UV filters) กลุ่มดูดกลืนรังสี ออกฤทธิ์โดยการดูดกลืนรังสีที่ความยาวคลื่นในช่วงใดช่วงหนึ่งของแสงอาทิตย์ ความสามารถในการกรองรังสียูวีบีหรือ ยูวีเอ แตกต่างกันไปแล้วแต่ชนิด
โดยองค์ประกอบพื้นฐานสำคัญของสารกันแดดในกลุ่มสะท้อนรังสีนี้คือ ไททาเนียมไดออกไซด์ (titanium dioxide) และซิงค์ ออกไซด์ (Zinc oxide) ซึ่งเป็นแร่ที่มีคุณสมบัติเฉื่อยและไม่ละลายน้ำ ในช่วงแรกๆ มีการผสมแร่เหล่านี้ในผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดดในระดับอนุภาคขนาดไมโครเมตร ซึ่งจะสะท้อนแสงออกมาทำให้เห็นเป็นสีขาวเวลาทาบนผิวหนัง แต่ถ้าบดอนุภาคเหล่านี้ให้เล็กมากๆ ขนาดนาโนเมตร แร่จะโปร่งใส แต่ก็ยังมีความสามารถในการสะท้อนรังสียูวี
ฉะนั้น หากไม่อยากหน้าเรืองแสงเมื่อเจอแบล็คไลต์ ก่อนใช้เครื่องสำอางควรอ่านส่วนผสมว่ามีสารอะไรบ้าง และที่สำคัญต้องดูว่ามีเลขจดแจ้งของ อย. หรือไม่ เพื่อความปลอดภัยนะคะ