แสงแดดมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต แต่ในทางตรงข้ามหากได้รับรังสียูวีมากเกินไป ก็สามารถทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย รวมทั้งผิวหนัง นัยน์ตา และก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้
หนึ่งในวิธีสำคัญในการปกป้องผิวจากรังสียูวี คือ การทาครีมกันแดด ว่าแต่วิธีทาครีมกันแดดของคุณได้ผลแล้วจริงหรือ?
นายแพทย์วรพล สุขีวัฒนา เจ้าของ DoctorTony Clinic ได้ให้ความรู้ว่า แสงอาทิตย์ประกอบด้วยรังสี 3 ประเภท คือ รังสีอินฟราเรดหรือความร้อน รังสีที่มองเห็นคือแสงสว่าง และรังสีที่มองไม่เห็นคือยูวี ซึ่งรังสีที่สามารถผ่านชั้นโอโซนลงมาพื้นโลกได้คือ ยูวีเอ 1 (UVA1) ยูวีเอ 2 (UVA2) และยูวีบี (UVB) รังสีทั้งสามชนิดนี้มีความสามารถทะลุทะลวงที่ต่างกัน ไล่จากมากที่สุดคือ ยูวีเอ 1 ยูวีเอ 2 ไปจนถึงน้อยที่สุด คือ ยูวีบี
ยูวีเอ 1 เป็นรังสีที่น่ากลัวที่สุด เพราะในแสงแดดมียูวีเอ 1 ถึง 75%มียูวีเอ 2 อยู่ 20% มียูวีบีเพียง 5% ยิ่งไปกว่านั้นรังสียูวีเอ 1 ยังสามารถทำลายโครงสร้างดีเอ็นเอของผิดและยังทำร้ายผิดได้ลึกที่สุดด้วย อีกทั้งสามารถทะลุกระจก ผนัง และเสื้อผ้าได้ เพราะฉะนั้นการทาครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อปกป้องจากการถูกทำร้าย ไม่เพียงแค่หมองคล้ำ แต่ทำให้เกิดฝ้า ริ้วรอย และร้ายที่สุดคือเกิดมะเร็งของผิวหนัง
เทคนิคเลือกและทาครีมกันแดดให้ได้ผลดี
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่า SPF 30ขึ้นไป แต่ถ้ามีSPF สูงมากเกินไปเนื้อครีมจะเหนียว, มีค่า PA เพื่อป้องกัน ยูวีเอ รวมถึงมีสาร Avobenzoneและ Zince Oxide เพื่อปกป้องผิวจากยูวีเอ 1 โดยเฉพาะ
- ทาครีมกันแดดบริเวณผิวหน้าและรอบดวงตา รวมถึงบริเวณริมฝีปาก ควรทาลิปบาล์มที่มีสารป้องกันแสงแดด, ผิวตัว และผิวมือ ควรทามอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวมือบ่อย ๆ และทาครีมกันแดดร่วมด้วย
- เข้าใจว่า ต้องโบก ต้องทาครีมกันแดดให้มากๆ เพราะคิดว่ายิ่งทามากก็ยิ่งจะช่วยป้องกันแดดได้มาก ซึ่งถือว่าเป็นความคิดและความเข้าใจผิดขอแนะนำให้ทาแค่เอาพอดี
- ครีมกันแดดใบหน้าให้ทาซ้ำ 2 รอบ เพราะใบหน้าเป็นส่วนที่ได้รับแสงแดดโดยตรง
- ควรทาครีมกันแดดก่อนออกไปเผชิญกับแสงแดด 15 – 30 นาที เพื่อให้เนื้อครีมซึมซาบลงสู่ชั้นผิว คอยเป็นเกราะป้องกันแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง แค่เท่านี้ก็สามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้แล้ว
ทั้งนี้ หากอยู่กลางแดดจัดหรือขับรถ ครีมกันแดดอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงควรสวมแว่นกันแดดด้วย