เพราะปัญหาสิวเป็นเรื่องใหญ่ของใครหลายๆ คน ไม่แปลกที่“การกินยารักษาสิว” จะกลายมาเป็นอีกทางเลือกเร่งด่วนของหนุ่มสาวยุคใหม่ แต่หารู้ไม่ว่า การกินยารักษาสิวแม้จะช่วยให้กลับมาหน้าใสไร้เม็ดสิว แต่ยังส่งผลกระทบให้เกิดโรคภัยต่างๆ ได้ด้วยเช่นกัน
ยารักษาสิว มี 3 กลุ่มใหญ่ คือ ยาฆ่าเชื้อ ยาลดการอักเสบและยาลดไขมันบนใบหน้า ซึ่งยาแต่ละกลุ่มก็มีส่งผลเสียต่อร่างกายแตกต่างกันไป โดย…
กลุ่มยาฆ่าเชื้อและยาลดการอักเสบ เสี่ยงให้เกิดโรคกระเพาะ กระเพาะทะลุ กรดไหลย้อน และถ้ามีอาการ กลืนเจ็บ กลืนลำบาก ซึ่งเป็นผลหลังจากการรับประทานยา อาจเกิดจาก ยาติดค้างในหลอดอาหาร เป็นผลมาจาก การดื่มน้ำน้อยเกินไป ควรจะดื่มน้ำตาม 1-2 แก้ว และหลังจากรับประทานยาไม่ควรนอนทันที ควรทิ้งช่วงประมาณ 1 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนได้ ซึ่งพบว่าผู้ป่วยที่รับประทานยากลุ่มนี้เป็นโรคกระเพาะอักเสบเพิ่มมาก
สำหรับคนที่เป็นโรคกระเพาะควรรับประทานยาหลังอาหารทันที และควรรับประทานยาลดกรดควบคู่ไปด้วย เพื่อป้องกันกระเพาะทะลุหรือโรคกระเพาะกำเริบ ซึ่งหากไปพบแพทย์ช้าก็อาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้
นอกจากยากลุ่มนี้จะส่งผลร้ายให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหารแล้ว ผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นไวรัสตับอักเสบบี หรือคนที่ไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคนี้ ยานี้จะไปกระตุ้นให้โรคกำเริบ นับเป็นภัยเงียบ คนทั่วไปไม่ได้ระวัง การรับประทานยารักษาสิวจะทำให้เกิดภาวะภาวะแทรกซ้อนได้บ่อย
กลุ่มยาลดไขมันบนใบหน้า ผลที่เห็นชัดเจนและพบบ่อยก็คือ คนที่รับประทานยาจะมีอาการปากแห้ง ถึงขั้นริมฝีปากแตกมีเลือดออก และห้ามคนท้องรับประทานยานี้โดยเด็ดขาด เพราะเสี่ยงให้เด็กที่เกิดมาพิการ สำหรับคนปกติระหว่างที่รับประทานยาจำพวกนี้หากจะมีเพศสัมพันธ์ต้องป้องกัน และมีการวางแผนการมีบุตร โดยหลังหยุดรับประทานยา 6-12 เดือน ถึงสามารถตั้งครรภ์ได้
หากคุณเลือกวิธีรักษาสิวด้วยการรับประทานยา ควรต้องระวังให้มาก ต้องกล้าซักถามแพทย์เกี่ยวกับยา ต้องรีบแจ้งหากมีโรคประจำตัว หากเคยรับประทานยาแล้วมีภาวะแทรกซ้อน เช่นมีแผลในกระเพาะอาหาร หรือหลอดอาหาร และไม่ควรรับประทานยาต่อเนื่องยาวนาน เมื่ออาการสิวลดลงควรเปลี่ยนมาใช้ยาทา