เป็นอีกหนึ่งเพื่อนคู่ครัวของหลายๆ บ้าน สำหรับ “นมข้นหวาน” เพราะช่วยเพิ่มความกลมกล่อมให้ขนมและเครื่องดื่มได้เป็นอย่างดี และเพราะเป็นผลิตภัณฑ์จากนม หลายคนจึงเชื่อว่าอย่างน้อยนมข้นหวานก็มีคุณค่าทางโภชนาการอยู่บ้างแม้จะมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบด้วย
แต่ใครจะรู้ว่าที่เห็นเผินๆ ลักษณะเหมือนนมข้นหวาน ส่วนมากกลับเป็นครีมเทียมผสมแป้ง น้ำมัน น้ำตาล ซึ่งไม่ให้คุณค่าทางโภชนาการเลย!
นมข้นหวาน และ นมข้นจืด (ผลิตภัณฑ์นมที่ใช้ใส่อาหารและเครื่องดื่ม) เดิมผลิตจากนมและไขมันนมเป็นหลัก ทำให้เมื่อบริโภคยังพอได้รับคุณค่าทางโภชนาการ คือ โปรตีนและแคลเซียมอยู่บ้าง แต่ขณะนี้พบว่ามีการพัฒนาสูตรไปเป็นผลิตภัณฑ์ครีมเทียมที่มีส่วนผสมของแป้ง น้ำมันปาล์ม และ กลูโคสไซรัปแทน โดยยังคงรสชาติของอาหารและเครื่องดื่มได้ เพื่อลดต้นทุนการผลิตซึ่งสิ่งเหล่านี้ผู้บริโภคยังไม่เข้าใจ เพราะยังคิดว่าผลิตจากนมปกติ
แต่เมื่อดูที่ส่วนประกอบแล้วจะพบว่ามีนมเป็นส่วนประกอบน้อยมาก และถูกทดแทนด้วยแป้ง และน้ำมันปาล์ม ซึ่งแทบไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายและยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ เพราะเป็นการรับประทานแป้งกับไขมัน โดยในน้ำมันปาล์มมีไขมันอิ่มตัวสูง ซึ่งการรับประทานมากๆ จะส่งผลให้คอเรสเตอรอลในร่างกายสูงขึ้นได้ ซึ่งในครีมเทียม 1 ซองปริมาณ 3 กรัม เป็นไขมันอิ่มตัวถึง 1 กรัม ถ้าเป็นเครื่องดื่มชนิดชงที่ต้องตวงส่วนผสมเองยิ่งมีการใส่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มากขึ้น
ฉะนั้น ถ้าคิดว่าใส่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ลงไปในอาหารและเครื่องดื่มเพื่อทำให้รสชาติดีแล้ว ต้องตระหนักเสมอเรื่องสุขภาพด้วย เพราะจะไม่ได้รับคุณค่าทางโภชนาการแล้ว ดังนั้น จึงไม่ควรบริโภคผลิตภัณฑ์เหล่านี้มากเกินไป เพราะไขมันอิ่มตัวซึ่งมีผลทำให้ระดับคอเรสเตอรอลในร่างกายสูง โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือหากเป็นไปได้ การรับประทานชา กาแฟ ขอแนะนำให้ใส่นมสดดีกว่า เพราะอย่างน้อยยังได้รับแคลเซียมและโปรตีนบ้าง
ถ้าคนที่ต้องระวังเรื่องสุขภาพอาจจะเติมนมพร่องมันเนย นมขาดมันเนยเข้าไปก็ได้ อาจจะไม่มัน อร่อยเท่ากับครีมเทียม แต่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ส่วนอาหารคาวที่มีการผสมนมเข้าไป เช่น ต้มยำ ฉู่ฉี่ ฯลฯ ก็สามารถหันมาใส่กะทิเหมือนเดิมได้ เพราะขณะนี้นักวิชาการโภชนาการทั่วโลกรับรองว่าไขมันจากกะทิ ถือเป็นไขมันที่ร่างกายสามารถดึงมาใช้ได้ทันที ไม่สะสมในร่างกาย ถือว่ามีประโยชน์มากกว่า