ใครที่ตามข่าวสุขภาพอยู่เนืองๆ คงจะเคยได้ยินเกี่ยวกับอันตรายต่อสุขภาพที่เกิดจากการบริโภคไขมันทรานส์มาบ้างไม่มากก็น้อย อาทิ ไขมันทรานส์ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลรวม คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี และไตรกลีเซอไรด์เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีผลให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดดีลดลง ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
ไขมันทรานส์ (Trans Fat)
หรือกรดไขมันทรานส์ (Trans Fatty Acid) เกิดจากกระบวนการเติมไฮโดรเจนหรือการเติมไฮโดรเจนบางส่วน ลงไปในนํ้ามันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง นํ้ามันที่ผ่านกระบวนการดังกล่าวจะเรียกว่า Hydrogenated Oil หรือ Partiallyhydrogenated Oil ทำให้นํ้ามันที่อยู่ในสภาพของเหลวเปลี่ยนเป็นไขมันที่มีสภาพแข็งขึ้นหรือเป็นของกึ่งเหลว พบในอุตสาหกรรมเนยเทียม (มาการีน) หรือเนยขาว
ไขมันดังกล่าวจะไม่เป็นไข เกิดการหืนช้า และมีอายุการเก็บรักษานานขึ้น จากผลเสียต่อสุขภาพที่เกิดจากไขมันทรานส์นี้เอง นำไปสู่ข้อแนะนำว่าไม่ควรกินไขมันทรานส์เกินวันละ 2 กรัม
ข้อแนะนำเรื่องการเลือกอาหารเพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับไขมันทรานส์
- ลดการกินขนมอบและเบเกอรี่โดยเฉพาะ โดนัท ครัวซอง พัฟ พายขนมปังกรอบ ขนมปังหน้าเนยเทียม เค้กหน้าครีม รวมทั้งอาหารประเภทของทอดอาหารที่มีส่วนประกอบของเนยขาว มาร์การีนและครีมเทียม
- อ่านฉลากอาหารและฉลากโภชนาการอย่างละเอียดก่อนซื้อผลิตภัณฑ์อาหารหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่เขียนว่า “ไขมันดัดแปลงด้วยวิธีการไฮโดรเจเนชั่น”(hydrogenated oils หรือpartially hydrogenated oils)ทั้งนี้ อาหารที่ฉลากโภชนาการแสดงค่าไขมันทรานส์ เป็น 0 หรือเขียนว่า “ปราศจากไขมันทรานส์” นั้น อาจจะมีไขมันทรานส์อยู่ด้วยแต่ที่ฉลากโภชนาการแสดงค่าเป็น 0เนื่องจากหลักการปัดตัวเลข อาหารที่มีไขมันทรานส์น้อยกว่า 0.5 กรัมต่อหน่วยบริโภคสามารถแสดงค่าเป็น 0 ได้ ทำให้เกิดความเข้าใจผิด
- เลือกใช้มาร์การีนชนิดที่ระบุว่า “ปราศจากไขมันทรานส์ (zero trans fat)”หรือชนิดที่ไม่แข็งมากหรือชนิดเหลว แทนมาร์การีนชนิดแข็ง
- ในการปรุงอาหารประเภทผัดหรือทอด หากใช้นํ้ามันไม่มากนักก็ไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับไขมันทรานส์มากเกินไป ถ้าปฏิบัติตามคำแนะนำ คือ ใช้นํ้ามันไม่เกินวันละ 6 ช้อนชาจะได้รับไขมันทรานส์จากนํ้ามันพืช เพียง 0.3-0.8 กรัม ซึ่งน้อยกว่าข้อแนะนำที่บอกว่าไม่ควรกินไขมันทรานส์เกินวันละ 2 กรัม
ลองนำไปปรับใช้กันดูนะคะ 🙂