ในแต่ละวัน โรคภัยและเชื้อไวรัสตัวใหม่ทยอยเกิดขึ้นมาไม่ซ้ำหน้า ไม่แปลกที่เหล่าคนรักสุขภาพจะหาวิธีดูแลและปกป้องตัวเองเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรค หนึ่งในวิธีง่ายๆ ที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ คือ การสวมใส่หน้ากากอนามัย
ปัญหาคือ หลายคนไม่แน่ใจว่าสวมใส่หน้ากากอนามัยได้ถูกวิธีหรือไม่?
สร้างความสับสนให้เหล่าคนรักสุขภาพได้ไม่น้อยกับการแชร์ข้อมูลกันบนโซเชียล เกี่ยวกับการใช้หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง โดย พญ.จริยา แสงสัจจา ผอ.สถาบันบำราศนราดูร ระบุว่า…
ถ้าเป็นผู้ป่วยให้หันหน้ากากอนามัยด้านสีขาวออก ส่วนคนปกติที่ต้องการป้องกันเชื้อให้หันหน้ากากอนามัยด้านสีเขียวออกมา ข้อมูลจาก ระบุว่า ข้อมูลที่มีการแชร์ผ่านทางโซเชียลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยหรือเป็นคนปกติที่อยากใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตัวเองก็มีวิธีการใส่เหมือนกัน
วิธีการใช้หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง
- ล้างมือให้สะอาดก่อนหยิบหน้ากากอนามัยมาสวมใส่
- ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยหรือคนปกติ ให้หันด้านสีเขียวออก (บางยี่ห้อมีสีอื่น) สังเกตด้านสีเขียวจะมีความมัน ซึ่งมีคุณสมบัติกันน้ำด้วย ทั้งนี้ รอยพับของผ้าด้านที่ไม่มีสี มักจะพับในแบบที่สามารถกักเอาน้ำลายที่เกิดจากการไอจามได้ นอกจากนี้ ด้านที่มีสี ในบางยี่ห้อสาก บางยี่ห้อกันน้ำ เวลาไอจาม ถ้าเอาด้านนี้เข้า น้ำจะไหลเปื้อนซึมออกมาข้างนอกง่าย แถมใส่แล้วเจ็บหน้า
- ขยับหน้ากากอนามัยให้ครอบคลุมทั้งจมูกและปาก โดยแถบพลาสติกหรือขอบลวดต้องอยู่ด้านบน เมื่อใส่แล้วอย่าลืมกดแถบพลาสติกให้แนบสันจมูกและใบหน้าของเรา เพื่อลมจะได้ไม่รั่ว
- แม้จะใส่หน้ากาอนามัยอยู่ ก็ต้องหมั่นล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง โดยเฉพาะเวลาจามหรือไอ
- หลังจากถอดหน้ากากอนามัยออกแล้ว ควรล้างมือให้สะอาด เพราะมือที่ไปจับหน้ากากอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคได้
- หากใช้หน้ากากที่ทำด้วยกระดาษ ควรใช้วันเดียวทิ้ง เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค หากใช้ซ้ำๆ จากที่จะช่วยป้องกันเชื้อโรคจะกลายเป็นแพร่กระจายเชื้อโรคแทน
“หน้ากากอนามัย” เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่ติดต่อทางทางเดินหายใจทั้งการรับและการแพร่เชื้อ ถือเป็นอุปกรณ์ที่หาได้ง่ายได้ผลราคาถูกและสะดวกในการใช้มากที่สุดค่ะ
