“ไข้เลือดออก” เป็นโรคติดต่อที่เป็นปัญหาสำคัญทางสาธารณสุขของประเทศ โดยมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสเดงกีสามารถติดต่อกันโดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค แหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายที่สำคัญคือ แหล่งน้ำขังต่างๆ โดยเฉพาะภาชนะที่เก็บน้ำกินน้ำใช้ วิธีหนึ่งในการป้องกันยุงลายที่ได้ผล คือการใส่ทรายกำจัดลูกน้ำ
ข้อมูลจาก นพ.สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่า
การใส่ทรายกำจัดลูกน้ำ หรือที่เรียกกันติดปากว่า “ทรายอะเบท” เป็นทรายที่มีการเคลือบด้วยสารกำจัดแมลงทีมีฟอส (Temephos) ลงในแหล่งน้ำเพื่อกำจัดลูกน้ำยุง ซึ่งสารทีมีฟอสเป็นสารเคมีกำจัดแมลงชนิดออร์กาโนฟอสเฟต มีกลิ่นเหม็น สลายตัวได้ง่ายเมื่อถูกแดดหรือความร้อน มีความเป็นพิษต่ำต่อคนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แต่มีความเป็นพิษสูงต่อลูกน้ำยุง ริ้น แมลงวันฝอยทราย แมลงหวี่ขน แมลงวันริ้นดำ เหา และสัตว์ปีก
การใช้งานต้องใช้ตามวิธีที่ระบุในฉลาก เช่น ทรายกำจัดลูกน้ำยุงสูตรที่มีทีมีฟอส 1% โดยน้ำหนัก เวลาใช้จะต้องนำไปใส่ในน้ำที่อัตราส่วนทรายอะเบท 1 กรัมต่อน้ำ 10 ลิตร หรือถ้าใช้สูตรที่มีทีมีฟอส 2% โดยน้ำหนักให้ใช้ในอัตราส่วน 0.5 กรัมต่อน้ำ 10 ลิตร โดยจะออกฤทธิ์ทำลายระบบประสาทและการหายใจของลูกน้ำยุงภายใน 1 ชั่วโมง ออกฤทธิ์อยู่ได้นาน 3 เดือน
อัตราส่วนต่อปริมาณน้ำ การเก็บรักษา วันหมดอายุ และวิธีการใช้เหล่านี้มีความสำคัญ ต่อคุณภาพของทรายกำจัดลูกน้ำ
และควรปฏิบัติตามคำแนะนำและคำเตือนเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ทั้งนี้ หากได้รับพิษจากการใช้งานที่ผิดวิธี ควรทำการการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ดังนี้
- ถ้าหายใจเข้าไปให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกไปสู่ที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจให้ช่วยผายปอด ถ้าหายใจติดขัดให้ออกซิเจนช่วย นำส่งไปพบแพทย์
- ถ้ากลืนหรือกินเข้าไป และผู้ป่วยยังมีสติอยู่ให้บ้วนล้างปาก ด้วยน้ำสะอาด หรือทำให้อาเจียนโดยดื่มน้ำ 2 แก้ว จากนั้นรีบนำส่งไปพบแพทย์
- ถ้าสัมผัสถูกผิวหนัง ให้ฉีดล้างออกด้วยน้ำปริมาณมาก ๆ อย่างน้อย 15 นาที พร้อมทั้งถอดเสื้อผ้า และรองเท้าที่เปรอะเปื้อนสารเคมีออก ซักทำความสะอาดก่อนนำมาใช้ใหม่อีกครั้ง
- ถ้าสัมผัสถูกตาให้ฉีดล้างออกด้วยน้ำปริมาณมากๆ อย่างน้อย 15 นาที จนอาการระคายเคืองทุเลาลง
การใช้ทรายกำจัดลูกน้ำใส่ในแหล่งน้ำเพื่อกำจัดลูกน้ำยุง เป็นการป้องกันไม่ให้ยุงที่เป็นพาหะนำโรคหลายชนิดแพร่พันธุ์ได้ แต่จะต้องใช้ในอัตราส่วนที่ถูกต้องจึงจะกำจัดลูกน้ำยุงได้นะคะ