ครั้งสุดท้ายที่เพื่อนๆ เช็คสุขภาพคือเมื่อไหร่? โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของระดับความเครียด สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงผลกระทบจากความเครียดต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ หลังจากที่ทุกความเครียดมีมากเกินไป ส่งผลต่อการเกิดความเจ็บป่วนได้ทั้งทางจิตใจและทางกายภาพ ซึ่งนั่นหมายรวมถึงการทำลายระบบเกี่ยวกับลำไส้และการย่อยอาหารของเราด้วยเหมือนกันนะ!

ความเครียดที่มีผลต่อลำไส้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เรากำลังประสบกับความเครียด ดังนี้:

• ความเครียดระยะสั้น อาจทำให้เราไม่อยากอาหารและทำให้การย่อยอาหารช้าลง
• ความเครียดในระยะยาว อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องผูก ท้องเสีย อาหารไม่ย่อย
• ความเครียดเรื้อรัง ในช่วงเวลาที่ยืดออกไปอาจนำไปสู่ปัญหาร้ายแรง เช่น โรคลำไส้ที่ระคายเคืองและความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารอื่นๆ ด้วย

หนึ่งในกุญแจสำคัญในการย่อยอาหารที่ดีคือการจัดการความเครียดให้อยู่ในระดับปกติ การลดความเครียดสามารถลดการอักเสบในลำไส้ช่วยบรรเทาความวิตกกังวลของ GI (อาการของโรค จากทางเดินอาหาร) และช่วยให้เราหล่อเลี้ยงร่างกายเนื่องจากร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารที่ต้องการได้ตามปกตินั่นเอง

และหากเพื่อนๆ กำลังมองหาแนวทางที่จะช่วยไม่ให้ความเครียดกระทบต่อระบบทางเดินอาหาร ลองใช้วิธีเหล่านี้ดู

1. ฝึกโยคะเพื่อเพิ่มและสนับสนุนการย่อยอาหาร
2. การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ยังชี้ให้เห็นว่าการปฏิบัติสมาธิจะพัฒนาความตระหนักที่เพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวัน ช่วยลดเครียด
3. เข้าถึงอาหารเสริมที่ช่วยเพิ่มแบคทีเรียในกระเพาะอาหารที่ดี เช่น กินพรีไบโอติกและโปรไบโอติกหรือมองหาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีโพรไบโอติกอย่าง Combif AR ก็ได้เหมือนกัน เพื่อนๆ สามารถดูรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ [Review] แน่นท้อง ถ่ายไม่ออก ความเซ็งนี้… แก้ด้วย Combif AR หรือ[REVIEW] Combif AR ตัวช่วยลำไส้ดีขึ้น อึดอัดแน่นท้อง ผายลม เรอถี่จนรู้สึกอาย
4. ลดสูบบุหรี่

สุขภาพช่องท้อง ระบบทางเดินอาหาร เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามแต่ความจริงแล้วเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวที่สุด เมื่อไหร่ที่เราเครียดหรือกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ (รวมทั้งพฤติกรรมเสี่ยง) ทำให้ระบบช่องท้องรวนและแน่นอนว่ากระทบกับสุขภาพโดยรวมด้วยเช่นเดียวกัน