หากนอนไม่พอ อวัยวะกว่า 6 อย่างในร่างกายจะได้รับผลกระทบโดยตรง! เช่น ทำน้ำหนักขึ้น เพราะการนอนหลับมีผลต่อระดับของฮอร์โมนสองชนิดคือ เลปตินและเกรลินซึ่งควบคุมความรู้สึกหิวและอิ่มนั่นเอง แบบนี้เรื่องของการอดนอนจึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวสำหรับเราเลย ข้อมูลจากบทความเรื่อง อายุเท่านี้ ควรนอนกี่ชั่วโมงดี? + วิธีช่วยนอนหลับได้มากขึ้น พูดถึงในวัยต่างกัน จำนวนชั่วโมงของการนอนจะแตกต่างกันออกไป ได้แก่
- ทารก 16-18 ชั่วโมง
- เด็กก่อนวัยเรียน 11-12 ชั่วโมง
- เด็กวัยเรียนประถม-มัธยมอย่างน้อย 10 ชั่วโมง
- วัยรุ่น 9-10 ชั่วโมง
- ผู้ใหญ่ (รวมถึงผู้สูงอายุ) 7-8 ชั่วโมง
แต่การจะนอนอย่างเต็มอิ่มได้นั้น บางทีเราก็ไม่รู้ตัวได้เลยว่า เรานอนอย่างเพียงพอแล้วหรือเปล่า รวมไปถึงอีกหนึ่งอาการที่น่าเป็นห่วงเพราะถือว่าเป็นภัยเงียบอย่าง “ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ” จากบทความเรื่อง บอกว่า
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ คืออะไร หรือ Obstructive Sleep Apnea (OSA) เป็นภาวะที่หยุดหายใจโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือไมรู้ตัวเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ระหว่างการนอนหลับ โดยปกติแล้วอากาศจะไหลอย่างราบรื่นจากปากและจมูกเข้าสู่ปอดตลอดเวลา ช่วงเวลาที่หยุดหายใจเรียกว่า “ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ” ใน OSA การไหลของอากาศตามปกติจะหยุดซ้ำ ๆ ตลอดทั้งคืน การไหลของอากาศหยุดลงเนื่องจากพื้นที่ทางเดินหายใจในบริเวณคอนั้นแคบเกินไป
เนื่องจากเป็นอาการที่เราอาจไม่รู้ตัว เป็นภัยเงียบที่สังเกตยาก ดังนั้น มาลองใช้วิธีสังเกตเบื้องต้นเพื่อไว้เช็คตัวเองว่าเรากำลังเสี่ยงหรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับหรือไม่?
- กรนเสียงดัง
- คู่นอนของเพื่อนๆ บอกว่าเพื่อนๆ กรนและบางครั้งหยุดหายใจเมื่อนอนหลับ
- บางครั้งตื่นขึ้นมาทันทีพร้อมกับหายใจถี่
- บางครั้งก็หายใจไม่ออก หรือหายใจลำบาก
- มักจะตื่นขึ้นมาใช้ห้องน้ำกลางดึกบ่อย
- ตื่นขึ้นมาด้วยอาการปากแห้งหรือเจ็บคอ
- มักจะตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัว
- มีอาการนอนไม่หลับ (นอนหลับยาก)
- มีภาวะ Hypersomnia (ง่วงนอนตอนกลางวันมากเกินไป)
- มีปัญหาเกี่ยวกับความจำขณะตื่น
- หงุดหงิดและมีอารมณ์แปรปรวน
- มีปัจจัยเสี่ยงต่อการหยุดหายใจขณะหลับอื่นๆ เช่นมีน้ำหนักเกินหรืออ้วน การดื่มแอลกอฮอล์หรือเป็นคนที่สูบบุหรี่
- มีความสนใจในเพศลดลงหรือกำลังมีปัญหาทางเพศ
หากเพื่อนๆ มีสัญญาณเตือนการหยุดหายใจขณะหลับให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับอาการ เพราะแพทย์จะมีคำแนะนำบางอย่างที่เหมาะกับสถานการณ์เฉพาะของเพื่อนๆ เมื่อป่วยพยายามปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด การวินิจฉัยโรคด้วยตัวเองอาจนำไปสู่บทเรียนที่น่ากลัวกว่านะครับ