“คาร์นิทีน” (Carnitine)
เป็นสารชีวสังเคราะห์ที่เกิดจากกรดอะมิโน 2 ตัว คือ ไลซีน (Ly sine) และ เมธไทโอนีน (Methionine) โดยที่ร่างกายมนุษย์สามารถสังเคราะห์ได้เองจากอวัยวะตับและไตส่วนคาร์นิทีนที่อยู่ในโครงสร้างที่เรียกว่า “แอล-คาร์นิทีน” (L-carnitine) จะเป็นโครงสร้างที่ร่างกายสามารถนำไปใช้งานได้
คาร์นิทีน เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ผลิตได้ที่ตับ แต่หากร่างกายขาดกรดอะมิโน, วิตามิน และแร่ธาตุ ดังกล่าว แม้ตัวใดตัวหนึ่ง ก็จะทำให้ร่างกายขาดกรดอะมิโนคาร์นิทีนไปด้วย
หน้าที่สำคัญของคาร์นิทีน คือช่วยลำเลียงและส่งผ่านกรดไขมันเข้าสู่กระบวน การเผาผลาญและสร้างพลังงานให้กับร่างกาย เนื่องจาก คาร์นิทีนเป็นกรดอะมิโน ที่จำเป็นต่อร่างกาย มีคุณสมบัติช่วยเปลี่ยนไขมันที่สะสมอยู่ในส่วนต่างๆ ของร่างกายให้กลายเป็นพลังงาน
ดังนั้น กรดอะมิโนคาร์นิทีน จึงมีฤทธิ์เป็นตัวเผาผลาญไขมัน (Fat Burner) โดยจะไปลดระดับของคอเลสเตอรอล (Cholesterol) และไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ซึ่งเป็น ไขมันอันตราย ที่จะไปอุดตันทางเดินของเลือดในเส้นเลือด โดยเฉพาะเส้นเลือดในสมอง และเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ อันเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตจากเส้นเลือดในสมองแตก และเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจอุดตัน
ทั้งนี้เราสามารถรับคาร์นิทีนได้จากสารอาหารหรืออาหารเสริมก็ได้ อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์ไม่ได้จัดสารนี้เข้าในกลุ่มวิตามิน
คาร์นิทีน พบได้ในอาหารประเภท โปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ นม ธัญพืชต่างๆ(ข้าวเจ้า ข้าวโอ้ต ข้าวโพด ข้าวสาลี) ผลไม้ต่างๆ ยีสต์ นมผึ้ง เป็นต้น
ร่างกายควรได้รับอะมิโนคาร์นิทีน 500 ไมโครโมลต่อวัน ดังนั้นการรับประทานอาหารอย่างหลากหลายมีสัดส่วนที่ถูกต้องเหมาะสม ก็ทำให้ร่างกายได้รับคาร์นิทีนได้อย่างเพียงพอแล้วและไม่จำเป็นต้องรับประทาน แอล-คาร์นิทีน เสริม