อย่าไว้ใจความมืด ระวังถูก “แมงมุมมีพิษ” กัด!!

0

แมงมุมเป็นสัตว์ที่พบได้ทั่วโลก มีสีและขนาดแตกต่างกันไป ขึ้นกับชนิดของแมงมุม ซึ่งมีหลากหลายชนิด ลำตัวของแมงมุมแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน

  • ส่วนแรก คือ ส่วนหัวที่มีเขี้ยวพิษซึ่งรวมอกไว้ด้วย
  • ส่วนที่สอง คือ ส่วนท้อง

แมงมุมจะมีเขี้ยวพิษ 1 คู่ และมีขา 4 คู่ที่น่ากลัวก็คือ พิษของแมงมุมอาจทำอันตรายถึงขั้นทำให้ผู้ถูกกัดเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงได้

แมงมุมจะชอบหลบซ่อนตัวอยู่ตามที่มืด ตามรูใต้พื้นดินหรือตามก้อนหินในเวลากลางวันจะเคลื่อนตัวได้ช้า และออกหากินในเวลากลางคืน โดยจะพรางตัวอยู่ในความมืด ใต้โต๊ะเก้าอี้ หรือตามซอกมุมของบ้าน

ทั้งนี้แมงมุมทุกชนิดจะมีพิษใช้สำหรับจับเหยื่อโดยจะปล่อยน้ำพิษ ออกทางเขี้ยวพิษ เมื่อแมงมุมกัดเหยื่อ แมงมุมบางชนิดจะมีขนอยู่บนด้านบนของส่วนท้องที่ทำให้ผู้ที่สัมผัสถูกเกิดอาการแพ้

night spider

ความรุนแรงจากการได้รับพิษของแมงมุมจะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย อายุ และตำแหน่งของร่างกายที่ถูกแมงมุมกัด โดยถ้าถูกกัดบริเวณในหน้าที่ใกล้กับระบบประสาท อาการจะรุนแรงกว่าการถูกกัดที่ส่วนอื่นของร่างกาย โดยผู้ที่ได้รับพิษของตะคริว และหายใจลำบาก

แมงมุมที่พบในประเทศไทยบางชนิด เช่น…

ทาแรนทูล่า (Tarantula)

นอกจากจะกัดด้วยเขี้ยวพิษแล้ว หากสัมผัสขนที่อยู่บนด้านบนของส่วนท้องจะทำให้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง โดยจะมีอาการคัน เป็นตุ่มนานหลายสัปดาห์ หรือถ้าเข้าตาจะทำให้ตาอักเสบอย่างรุนแรงได้


 

แมงมุมแม่ม่ายดำ แม่ม่ายน้ำตาล

ผู้ถูกแมงมุมชนิดนี้กัดจะมีอาการแพ้อย่างรุนแรง มีแผลเป็นผื่นบวมแดง เจ็บปวดมีหนอง แผลจะหายช้ามาก และจะเกิดเป็นเนื้อตาย ส่วนพิษจะทำลายระบบภูมิคุ้มกัน และระบบน้ำเหลือง รวมทั้งทำลายเม็ดเลือดขาว ขณะนี้ยังไม่มีเซรุ่มแก้พิษ แต่จะใช้วิธีรักษาตามอาการ


 

การป้องกันตัวจากการถูกแมงมุมมีพิษกัด

ทำได้โดยการหลีกเลี่ยงจากแมงมุม และคอยระมัดระวังตัวเองเมื่อต้องอยู่ในที่มืด แต่ถ้าถูกแมงมุมกัดให้รีบล้างแผลให้สะอาด ไม่ขยับแขนขาที่ถูกกัดและใช้ผ้าพันแผลเพื่อลดการกระจายของพิษและประคบแผลด้วยน้ำแข็ง รับประทานยาระงับปวด ทายาฆ่าเชื้อบริเวณที่แมงมุมกัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอนแทรกซ้อน ถ้ามีอาการรุนแรงให้รีบไปพบแพทย์

รู้แล้วก็ต้องป้องกันตัวด้วยนะคะ 🙂

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *