สยองอ่ะ!! ตรวจพบเชื้อวิบริโอ พาราฮีโมไลติคัสใน “ซูชิ”

0

ยังคงเป็นเมนูฮอตฮิตในบ้านเราเสมอ สำหรับ “ซูชิ” อาหารสัญชาติญี่ปุ่นที่ถูกปากหนุ่มสาวชาวไทยอย่างแรง นอกจากจะรสชาติอร่อยแล้ว ยังหาซื้อหม่ำง่ายมากเพราะมีขายตั้งแต่ในโรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ไปจนถึงตลาดนัด และเพราะซื้อง่ายขายคล่องความมักง่ายจึงตามมา ล่าสุดจึงเกิดข่าวคราวชวนแหวะอย่างการตรวจพบ “เชื้อวิบริโอ” ในซูชิจากการสุ่มตรวจของสำนักอนามัย กรุงเทพฯ

แบคทีเรียในซูชิ

เชื้อวิบริโอ พาราฮีโมไลติคัส (Vibrio Parahaemolyticus)

เป็นแบคทีเรียแกรมลบ รูปแท่ง มีแหล่งธรรมชาติในน้ำทะเลและน้ำกร่อย แยกได้จากน้ำทะเลทั่วโลก พบได้ในกุ้ง หอย ปลา และปูหลายชนิด ก่อโรคอาหารเป็นพิษหรือทางเดินอาหารอักเสบการทำให้เกิดโรคนั้นจำนวนเชื้อต้องมีมากพอที่ตั้งแต่ 106-109 ตัวต่อกรัม จึงสามารถทำให้เกิดอาหารเป็นพิษได้

เมื่อเข้าสู่ร่างกายเชื้อจะทวีจำนวนขึ้นในลำไส้ เชื้อชนิดสร้างสารพิษมีทั้งสร้างในร่างกายหรือในอาหารก่อนรับประทาน ทำให้มีอาการท้องร่วงรุนแรง อุจจาระเหลวเป็นน้ำมีกลิ่นเหม็นเหมือนกุ้งเน่า มักมีอาการปวดเกร็งที่ท้องและอาเจียนร่วมด้วย

โดยมักเกิดอาการใน 15-24 ชั่วโมงหลังจากหม่ำอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อนี้ อาจมีอาการถึง 10 วัน แต่ส่วนใหญ่จะทุเลาภายใน 3 วัน โดยไม่ต้องรักษา บางรายคล้ายเป็นบิด อุจจาระมีมูกเลือด มีไข้ต่ำ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน อาการอาจเกิดเฉียบพลัน และอาจรุนแรงจนหมดสติได้

ที่ผ่านมาการสุ่มตรวจปลาดิบนำเข้าจากญี่ปุ่นมักไม่พบพยาธิ ไม่พบเชื้อโรค แต่เมื่อตรวจในกระบวนการขนส่งจัดเก็บแล้วพบว่ามีเชื้อวิบริโออยู่บ่อยๆ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะระบบควบคุมอุณหภูมิไม่ดี ทำให้รับเอาเชื้อโรคเข้ามาภายหลัง บางร้านกว่าจะถึงมือผู้บริโภคใช้เวลานานถึง 8 ชั่วโมง นอกจากนี้ประเทศไทยอากาศร้อน เชื้อโรคจึงเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี ดังนั้น การรับประทานอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยมีความเสี่ยงอยู่ระดับหนึ่ง หากจะรับประทานต้องเลือกร้านที่มีมาตรฐาน สะอาด และเชื่อถือได้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *