ได้ยินได้ฟังคำเตือนเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้ากันตลอด แต่ก็ยังมีข่าวคราวเกี่ยวกับผู้ป่วยด้วยโรคนี้ให้ได้หวาดผวากันเรื่อยๆ ล่าสุดสถานการณ์ของบ้านเราในขณะนี้กำลังน่าเป็นห่วง เพราะโรคพิษสุนัขบ้ากลับมาระบาดอีกแล้วในหลายจังหวัดแม้กระทั่งกรุงเทพฯ ก็มีการระบาดอยู่ในกลุ่มสุนัขจรจัด
สำหรับกรณีล่าสุดผู้ป่วยเป็นชายมีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างโดยเจ้าตัวมักจะไปคลุกคลีให้อาหารสุนัขจรจัดอยู่เป็นประจำ และเมื่อช่วง 5 สัปดาห์ก่อนได้เข้าช่วยเหลือสุนัขจรจัดที่ข้ามถนน ก่อนจะโดนกัดที่มือ 1 แผล แต่ไม่ได้ไปหาหมอหรือทำแผลแต่อย่างใด เพราะคิดว่าไม่เป็นอะไร หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มมีอาการของโรคพิษสุนัขบ้า คือ ปวดแสบร้อนที่แผล แขนข้างที่โดนกัดมีเหงื่อออกมาผิดปกติ กระวนกระวาย จึงมาหาหมอ ปรากฏว่าตรวจมีเชื้อพิษสุนัขบ้า จากนั้นไม่นานก็เสียชีวิตลง เนื่องจากมาหาหมอเมื่อสายเกินไป เชื้อได้แพร่กระจายไปแล้วไม่สามารถรักษาได้
ช่วงปีที่ผ่านมาพบผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคดังกล่าวแล้ว 8-9 ราย และจากการตรวจหาโรคในสุนัขจรจัดก็พบว่าจะพบเชื้อพิษสุนัขบ้า 3-4 ตัวต่อการตรวจ 10 ตัว
ดังนั้น ผู้ที่เลี้ยงสุนัขอย่าได้วางใจว่าเลี้ยงสุนัขในบ้านแล้วจะไม่มีเชื้อ เพราะสุนัขอาจจะแอบมาเล่นนอกบ้านจนได้รับเชื้อไปได้ ขอให้รีบพาสุนัขไปฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคไว้ หรือรีบพาสุนัขไปตรวจหาเชื้อตั้งแต่ตอนนี้
นอกจากนี้ห้ามเล่นกับน้องหมาหรือน้องแมวที่ไม่รู้จักเด็ดขาด เพราะเราไม่รู้ว่ามันมีเชื้อพิษสุนัขบ้าหรือเปล่า แต่ถ้าพลาดพลั้งถูกสุนัขหรือแมวที่สงสัยว่าเป็นโรคกัด ข่วน เลีย น้ำลายกระเด็นเข้าทางตา ปาก หรือทางผิวหนังที่มีบาดแผล ควรรีบปฐมพยาบาลโดยการล้างแผลทันทีด้วยน้ำและฟอกสบู่หลายๆ ครั้ง
ถ้ามีเลือดออกควรปล่อยให้เลือดไหลออก อย่าบีบหรือเค้นแผล เพราะจะทำให้เชื้อแพร่กระจายไปส่วนอื่น แล้วเช็ดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโพวีโดนไอโอดีน ถ้าไม่มีให้ใช้แอลกอฮอล์ 70% หรือทิงเจอร์ไอโอดีน
จากนั้นรีบไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันทีเพราะถ้าเชื้อยังอยู่ที่บริเวณแผลไม่แพร่กระจายจะสามารถรักษาได้ แต่เมื่อไหร่ที่ปล่อยทิ้งไว้นานเชื้อแพร่กระจายไปแล้วอาจจะเข้าสู่สมอง กรณีนี้ให้เตรียมใจไว้เลยว่าต้องเสียชีวิตแน่นอนเพราะไม่มีทางรักษาได้
