เพราะยุคนี้เป็นยุคแห่งการดูแลสุขภาพ หนุ่มสาวหลายคนกลัวอ้วนยิ่งกว่าสิ่งใดๆ ในโลก ก่อนจะหยิบอะไรเข้าปากก็ต้องเลือกแล้วเลือกอีกว่าดีต่อสุขภาพ แคลอรี่ต่ำ น้ำตาลน้อย และเพราะน้ำตาลมีหลายชนิด
หลายคนจึงสงสัยว่าน้ำตาลจากผลไม้ทำให้อ้วนหรือไม่??
น้ำตาลที่อยู่ในผลไม้ เวลาที่เราทานคือ “ฟรุกโตส” (Fructose) คือน้ำตาลที่มาจากธรรมชาติ โดยฟรุกโตสมีทั้งมาจากธรรมชาติ (จึงมีแคลอรีที่น้อยกว่า และมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่า) นอกจากนี้ยังมีฟรุกโตสที่มาจากการกลั่น หรือสกัดมาอีกทีหนึ่ง ที่รู้กันในนาม High fructose corn syrup (HFCS) ซึ่งจะใช้ทำให้น้ำอัดลมทั้งหลายมีความหวาน หรืออาหารกระป๋องที่ผ่านขั้นตอนการผลิต (Processed food) และอาหารประเภทนี้ที่มี ฟรุกโตสค่อนข้างที่จะมีแคลอรีสูง และไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการ
ฟรุกโตสทั้งสองแบบนี้จะถูกเก็บไว้ในตับของเราก่อนเป็น liver glycogen และตับเรามีจำนวนจำกัดที่จะเก็บ ฟรุกโตสได้ (ประมาณ 50 กรัม/วัน) เช่น แอปเปิ้ล ลูกนึงมีฟรุกโตสประมาณ 11 กรัม แต่ถ้าเทียบน้ำอัดลมที่อาจมี ฟรุกโตสถึง 50 กรัม และแคลอรียังเยอะกว่าอีกด้วย ดังนั้น การที่ liver glycogen เราจะเต็มจนร่างกายเอาฟรุกโตสจากผลไม้ที่เรากินไปเป็นไขมันจึงยาก ยิ่งถ้าออกกำลังกายอีก ยิ่งกำจัดได้ง่าย
เมื่อเราอยู่ในช่วงที่ ควบคุมน้ำหนักหรือออกกำลังกายเยอะ จนเราเอาแคลอรีออกมากกว่าเข้า ร่างกายก็จะเปลี่ยนฟรุกโตสไปเป็นกลูโคส หรือเก็บเป็น liver glycogen แทนที่จะเก็บเป็นไขมัน เพราะ liver glycogen เราจะยังไม่เต็ม
ฉะนั้นหากอยากทราบว่าอาหารอะไรมีฟรุกโตสมากน้อยแค่ไหน ให้ดูป้ายคุณค่าทางโภชนาการข้างหลังตรง “ingredients” นอกจากนี้ฟรุกโตสที่เราทานเป็นหลักควรมาจากธรรมชาติ เช่น ผักและผลไม้ และควรเลี่ยงพวกน้ำอัดลม
ที่น่าคิดก็คือ ตราบใดที่คุณทานน้ำตาลส่วนมากจากผลไม้ ซึ่งมาจากธรรมชาติ ประโยชน์นั้นมากกว่าโทษแน่นอน ทั้งนี้ทั้งนั้นควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบคุ่ไปด้วยเพื่อสุขภาพที่ดีและรูปร่างที่สมส่วน