“ลืมตาในน้ำทั้งคืนจนเช้า เพราะเรื่องเธอ เพื่อให้น้ำล้างภาพติดตาที่เห็นเธอไปกับใคร และคงลืมตาในน้ำทุกวันเพื่อลบภาพเธอไปคงต้องใช้น้ำตามากมายเพื่อล้างตา ไม่ให้เหลือภาพเธอให้จำ”
“น้ำ”
ไม่ได้ช่วยแค่ล้างตาเหมือนในเพลงของโปเตโต้เท่านั้นนะครับ แต่น้ำนอกจากให้ความชุ่มชื่นแล้วยังช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้อีกด้วยนั่นเป็นเพราะว่าจิตใจมีความเชื่อมโยงกับสายน้ำหรือที่เรียกว่าบลูมายด์ ซึ่ง วอลเลนซ์ เจ นิโคล นักชีววิทยาทางทะเลได้เขียนไว้ในหนังสือชื่อ Blue Mind ว่า…
น้ำมีอิทธพลต่อความคิดและจิตใจ ดังนี้
1.ทำให้สมาธิดีขึ้น
การจ้องมองลงไปในน้ำและดูการเคลื่อนไหวของสายน้ำเป็นการช่วยฝึกสมาธิ ทำให้รู้สึกสงบและมีสมาธิมากขึ้นช่วยทำให้สมองผ่อนคลายเพราะการพุ่งความสนใจไปที่บางสิ่งจะช่วยลดความเครียดความวิตกกังวล ความเจ็บปวดและความโศกเศร้าได้แถมช่วยให้นอนหลับสบายด้วย
2.เกิดความคิดสร้างสรรค์
ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปถึงทะเล แค่เพียงอาบน้ำก็ช่วยให้จิตใจได้ผ่อนคลายสลายความเครียดและความยุ่งยากใจ ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการสุดบรรเจิด
3.สร้างความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน
เมื่ออยู่ใกล้น้ำ จิตสำนึกจะเกิดความรู้สึกกลัวและอยากอยู่กับผู้อื่นมากกว่าอยู่คนเดียว การได้นั่งอยู่ใกล้ใครบางคนริมแม่น้ำ นอกจากทำให้หายกลัวแล้ว ยังเป็นความโรแมนติก จึงเห็นได้ว่า การขอแต่งงาน การแต่งงานและการฮันนีมูนมักเกิดขึ้นในสถานที่ที่ใกล้ๆกับน้ำเช่น ทะเล น้ำตก ริมแม่น้ำ ทะเลสาบ เป็นต้น
ให้น้ำช่วยปลอบประโลมใจให้มีสุขแล้วอย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำกายและกินอาหารที่มีประโยชน์นะครับจะได้สุขสมบูรณ์ทั้งกายและใจกัน