การอาบน้ำเป็นกิจวัตรประจำวันที่เราทำกันอยู่เป็นประจำ การอาบน้ำไม่เพียงแต่ช่วยให้ร่างกายสะอาดและรู้สึกสดชื่น แต่ยังเป็นวิธีหนึ่งในการดูแลผิวพรรณให้ดีขึ้นอีกด้วย การอาบน้ำอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทราบเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายและทำให้มีสุขภาพดี
อาบน้ำอย่างไร
ใช้สบู่ผสมน้ำฟอกร่างกาย โดยเฉพาะข้อพับต่าง ๆ ให้ทั่วถึงและสะอาด การใช้สบู่ธรรมดาสามารถชำระล้างเชื้อโรค ไวรัส และแบคทีเรียต่าง ๆ ได้ เพราะสบู่มีส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิวที่ช่วยขจัดไขมันและสิ่งสกปรกได้ ทำให้เหงื่อไคล แบคทีเรีย ไวรัส และจุลินทรีย์ที่อยู่บนผิวหลุด ออกไปได้อย่างสะอาดหมดจดอยู่แล้ว จึงสามารถป้องกันโรคติดเชื้อต่าง ๆ ได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้สบู่ที่มีส่วนผสมของสารต้านแบคทีเรียเลย เพราะการใช้สบู่ผสมสารต้านแบคทีเรียโดยไม่จำเป็น อาจไปฆ่าจุลินทรีย์ที่ดีต่อร่างกาย และเสี่ยงต่อการเป็นเชื้อดื้อยาอีกด้วย
อุณหภูมิมีความสำคัญอย่างมากในการอาบน้ำ โดยแบ่งได้ดังนี้
1. การอาบน้ำร้อน ที่มีอุณหภูมิประมาณ 37-42 องศาเซลเซียส จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น และรู้สึกผ่อนคลาย เช่นเดียวกับการแช่ออนเซ็น อย่างไรก็ตาม ไม่ควรอาบหรือแช่น้ำร้อนเกิน 15 นาที เนื่องจากอาจเกิดอาการหน้ามืดเป็นลมได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้ผิวแห้ง จึงควรทาครีมบำรุงผิวทุกครั้งหลังจากอาบน้ำ
2. การอาบน้ำอุ่น ที่มีอุณหภูมิประมาณ 27-37 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการอาบน้ำ ช่วยขับของเสีย ทำให้ผ่อนคลาย ลดอาการบวม มือเท้าเย็น เส้นเลือดขอด และช่วยในการไหลเวียนเลือด ทำให้ผ่อนคลาย สบายตัว และนอนหลับง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามควรทาครีมบำรุงผิวทุกครั้งหลังจากอาบน้ำอุ่น เพราะน้ำอุ่นก็สามารถทำให้ผิวแห้งได้
3. การอาบน้ำเย็น ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 27 องศาเซลเซียส จะช่วยให้ร่างกายและกล้ามเนื้อตื่นตัว ทำให้รู้สึกสดชื่น มีงานวิจัยต่างประเทศระบุว่า การอาบน้ำเย็นยังสามารถลดอาการซึมเศร้า หดหู่ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามควรทาครีมบำรุงผิวทุกครั้งหลังจากอาบน้ำเย็น เพื่อลดอาการผิวแห้งแตก
การอาบน้ำในแต่ละครั้งไม่ควรใช้เวลานานเกินไป โดยทั่วไปควรอยู่ประมาณไม่เกิน 5-10 นาที และไม่ควรอาบน้ำดึกเกินไป เพราะอาจทำให้ร่างกายเสียสมดุลในการปรับอุณหภูมิ ทำให้เกิดผิวแห้งและผิวขาดความชุ่มชื้น ส่วนความถี่ในการอาบน้ำปกติ แนะนำให้อาบน้ำวันละ 1-2 ครั้ง ไม่ควรอาบน้ำบ่อยจนเกินไปเพราะอาจทำให้มีอาการผิวแห้ง ระคายเคืองตามมาได้ และไม่ควรเว้นระยะห่างของอาบน้ำนานเกินไปเพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคบางอย่าง เช่น ผิวหนังอักเสบติดเชื้อ หิด เหา หรือ โลน เป็นต้น
ทำความสะอาดร่างกายด้วยการอาบน้ำแล้ว อย่ามองข้ามการดูแลอวัยวะสำคัญอย่างจมูก ใครกำลังมองหาไอเทมที่ช่วยดูแลสุขอนามัยจมูกให้สะอาดและแข็งแรง ขอแนะนำ อควา มาริส คลาสสิก (Aqua Maris® Classic Nasal Spray) ด้วยส่วนประกอบของสารละลายน้ำทะเลที่มีความเข้มข้นเท่ากับความเข้มข้นภายในเซลล์ของร่างกาย จึงช่วยทำความสะอาดและบำรุงรักษาโพรงจมูก ตลอดจนบรรเทาอาการจมูกแห้งและระคายเคืองในระยะยาว ให้ความชุ่มชื้นและชะล้างเยื่อบุโพรงจมูก รวมทั้งป้องกันการก่อตัวของน้ำมูกและสิ่งแปลกปลอมในจมูก สามารถใช้ได้ทุกวัน หรือบ่อยเท่าที่ต้องการ
การดูแลร่างกายให้สะอาดอยู่เสมอเป็นการดูแลสุขภาพเบื้องต้นที่สำคัญ เพื่อป้องกันสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง และเชื้อโรคที่ติดมาในชีวิตประจำวันเข้าสู่ร่างกาย เป็นการลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ